เศรษฐกิจจีนหมดแรง ไตรมาส 3 โตแค่ 6% เติบโตแย่สุดรอบ 27 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีน ได้มีการชะลอตัวลดลงในไตรมาสที่ 3 จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนในวันนี้
.
โดยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ของจีนในไตรมาสที่ 3 ปีนี้มีการปรับเพิ่มขึ้น 6 % จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และน้อยกว่าในไตรมาสที่สองที่โต 6.2% อยู่ 0.2% ถือเป็นอัตราการเติบโตช้าที่สุดในรอบ 27 ปี
.
ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 5.8% ยอดค้าปลีกขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน
.
ด้านนาย หลี่เหว่ย นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก บริษัท สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เปิดเผยว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ GDP ของจีนลดลงอย่างรวดเร็ว เกิดจากความอ่อนแอของภาคอุตสาหกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลง รวมไปถึงข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ จีนที่ยืดเยื้อมานานว่า 1 ปี แต่คาดว่ารัฐบาลจีนจะสามารถกระตุ้นนโยบายเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนยังอยู่ในกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 6% ถึง 6.5%
.
ทั้งนี้รัฐบาลจีนพยายามเดินหน้าสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ ด้วยการลดภาษีและลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเมื่อวันที่16 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้อัดฉีดเงินสดมากถึง 3 แสนล้านหยวน เข้าสู่ระบบการเงินผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง เพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ในการรักษาสภาพคล่อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่ช่วยให้เศรษฐกิจของจีนหลุดพ้นจากความซบเซา ซึ่งเป็นผลกระทบจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงได้