เศรษฐกิจญี่ปุ่นร่วงหล่นมาอันดับ 4 ของโลก ผลพวงเงินเยนร่วงหนักต่อเนื่องหลุดกว่า 150 เยน

171
0
Share:
เศรษฐกิจญี่ปุ่น ร่วงหล่นมาอันดับ 4 ของโลก ผลพวงเงินเยนร่วงหนักต่อเนื่องหลุดกว่า 150 เยน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ในปี 2023 มูลค่าขนาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 151.2 ล้านล้านบาท จากในปี 2012 ที่มีเคยมีขนาดเศรษฐกิจราว 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 226.8 ล้านล้านบาท หรือหดตัวลงถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 75.6 ล้านล้านบาทในช่วง 11 ปีผ่านมา สาเหตุจากมูลค่าเงินเยนที่เฉลี่ยลดลงต่อเนื่องจากที่เคยแข็งค่ามากถึงระดับ 80 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงหลายปีผ่านมานั้น ลงมาเหลือเฉลี่ยที่ 140 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในปีผ่านมา

นายฮิเดโอะ คูมาโนะ นักเศรษฐศาสตร์อำนวยการ สถาบันวิจัยชีวิตไดอิชิ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ขนาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีมูลค่าลดลงเป็นผลจากค่าเงินเยนที่ร่วงอ่อนค่าในช่วงกว่า 2-3 ปีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน นั่นหมายถึง ในแง่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าขนาดเศรษฐกิจลดต่ำลงและมีผลให้ขนาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีขนาดเล็กลงจากเดิม ทุกวันนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นเพียงประเทศเดียวที่มีขนาดหดตัวลงจนกระทั่งเยอรมนีซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลกกลับมีขนาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของโลกในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจเยอรมนีในปัจจุบันจะเผชิญกับปัจจัยลบที่ไม่แตกต่างกันก็ตาม

อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ยังคงร่วงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ที่สำคัญในช่วงเช้าผ่านมาของวันนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2024 ร่วงลงมาแตะระดับ 150.89 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ เงินเยนร่วงลง 6.4% ต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ ในปี 2022 เงินเยนร่วงลงอย่างหนักต่ำสุดระหว่างปีมาแตะที่ระดับ 152 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าในรอบกว่า 30 ปี ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องแทรกแซงค่าเงินเยนอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนี ซึ่งมีโครงสร้างเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกันมาก เช่น ภาคอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก ประชากรเข้าสู่วัยชราชัดเจนและจะมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และภาวะการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตสินค้า ไม่รีบปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจในอนาคต จะทำให้อินเดียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลกในปัจจุบันจะมีขนาดเพิ่มมากขึ้นถึงขั้นแซงเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2026 และแซงเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 2027 มายืนอยู่ในอันดับ 3 ของโลก