เศรษฐกิจสหรัฐสุดแกร่งดันน้ำมันดิบตลาดโลกปิดยืนกว่า 82 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 1 เดือนกว่า

157
0
Share:
เศรษฐกิจสหรัฐสุดแกร่งดัน น้ำมันดิบ ตลาดโลกปิดยืนกว่า 82 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 1 เดือนกว่า

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 77.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.02% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ธันวาคม 2023 ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.02%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.99% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.59%

ย้อนไปในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนมั่นใจภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาปรับตัวได้ดีจากอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไตรมาสที่ 4 ปีผ่านไปกลับขยายตัวสูงถึง 3.3% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 2.0% ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดต่ำลง 9.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลงกว่า 6 ล้านบาร์เรล ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงไม่เห็นสัญญาณในทางบวกแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2023 พบว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลงกว่า -10% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดรายปีลดลงในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา สำหรับในปี 2022 นั้น ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิด +7% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิด +10%