เศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้ยังโตไม่พ้น 1% รับไตรมาส 3 ชะลอตัว -0.3% โควิด-19 กลับมาระบาดในต่างประเทศทั่วโลก

382
0
Share:
เศรษฐกิจไทย ทั้งปีนี้ยังโตไม่พ้น 1% รับไตรมาส 3 ชะลอตัว -0.3% โควิด-19 กลับมาระบาดในต่างประเทศทั่วโลก

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจไทยพาณิชย์ หรือ EIC เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2021 หดตัว -0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และ -1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ จากผลกระทบการระบาด COVID-19 สายพันธุ์เดลตาทั่วโลกรวมถึงไทย โดยหากพิจารณาเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าแบบปรับฤดูกาล พบว่าหลายภาคเศรษฐกิจหลักของไทยมีการหดตัว เริ่มจากภาคการส่งออกสินค้าและบริการ ที่แม้จะยังขยายตัวได้ดีแบบ แต่กลับปรับลดลงชัดเจนแบบรายไตรมาส ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากการระบาดทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงต้นไตรมาส 3 ส่วนภาคเศรษฐกิจในประเทศ พบว่าการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน สะท้อนภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังเปราะบางและซบเซา ในส่วนของด้านการผลิต พบว่าภาคเกษตรขยายตัวได้ดี แต่ภาคเศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ได้แก่ การผลิตอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และสาขาที่พักและร้านอาหาร
สำหรับเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 4/2021 คาดเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวตามสถานการณ์การระบาดที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนที่มีมากขึ้น ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายประเภทกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ทั้งนี้หากพิจารณาข้อมูลเร็วของ Google และ Facebook ก็จะพบว่าเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ส่วนในปี 2022 EIC คาดเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในอัตราเร่งขึ้นจากปีนี้ ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในและนอกประเทศ เริ่มจากการส่งออกสินค้ายังมีแนวโน้มขยายตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนทั่วโลกที่จะเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว รวมถึงการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้า ๆ จากระดับนักท่องเที่ยวที่ยังต่ำกว่าช่วงปกติมาก และผลของแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกจากผลกระทบในช่วงสองปีที่ผ่านมาทั้งในด้านพลวัตการเปิดปิดกิจการที่ปรับแย่ลง ตลาดแรงงานที่เปราะบาง และภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง

ปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องจับตามองยังมีอยู่หลายประการ ได้แก่ 1) การระบาด COVID-19 ทั้งในไทยและต่างประเทศที่อาจกลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะหากมีการกลายพันธุ์ของไวรัสที่ลดประสิทธิภาพวัคซีนลง 2) ผลของแผลเป็นเศรษฐกิจที่อาจมีมากกว่าคาด จนกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ในวงกว้าง 3) การเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อตามราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นมาก ซึ่งอาจมีความรุนแรงหรือยืดเยื้อมากกว่าคาด จนกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 4) เศรษฐกิจจีนที่มีความเสี่ยงจากวิกฤติพลังงานและภาคอสังหาริมทรัพย์ และ 5) ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง

โดยสรุป GDP ไตรมาส 3/2021 ที่ออกมาที่ -0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ค่อนข้างใกล้เคียงกับเลขที่ EIC คาดไว้ที่ -0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการเศรษฐกิจของ EIC ณ เดือนกันยายน 2021 โดยคาดไว้ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และ 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ในปี 2021 และ 2022 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี จากการติดตามข้อมูล mobility ของ Google และ Facebook พบว่ามีแนวโน้มที่เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4/2021 อาจฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ได้ โดยโมเมนตัมการฟื้นตัวที่เร็วขึ้นของเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวโลก ยังอาจส่งผลทำให้เศรษฐกิจปี 2022 ฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่าคาดได้เช่นกัน ซึ่งในระหว่างนี้ EIC กำลังทำการวิเคราะห์โดยละเอียดจากสถานการณ์ในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต และจะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้