เศรษฐกิจไทยเจอปัจจัยลบภายใน-ภายนอกรุมเร้า

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยช่วงนี้เจอปัจจัยภายใน-ภายนอกรุมเร้ามาก จากผลกระทบสงครามการค้าก็หนักขึ้น เริ่มกระทบต่อสินค้าอุปโภคบริโภค สหรัฐฯและจีนขึ้นภาษีตามที่ประกาศเอาไว้ 1 กันยายน ครอบคลุมมูลค่าสินค้ารอบใหม่ 1.87 แสนล้านดอลลาร์ และอาจทำให้เกิดกระทบต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมส่งออกของไทย และอาจมีผลกระทบจากช่องทางประเทศคู่ค้าของไทยที่พึ่งพาการส่งออกไปจีนสูง
.
ส่งผลทำให้ประเทศคู่ค้าไทยเหล่านี้ ประกอบไปด้วย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย ฮ่องกง สั่งซื้อสินค้าขั้นกลางและวัตถุดิบจากประเทศไทยน้อยลง โดยประเทศกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วน 25-26% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด
.
ส่วนผลกระทบจากพายุโพดุล ทำให้น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง มีผลกระทบต่อพืชผลการเกษตรที่รอการเก็บเกี่ยวรุนแรงอย่างมาก ความยากลำบากและความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประชาชนในชนบทระดับฐานราก ถูกซ้ำเติม ทั้งจากภัยแล้งก่อนหน้านี้และตามมาด้วยน้ำท่วมฉับพลัน
.
ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน อาจติดขัดจากโครงสร้างการบริหารประเทศที่มีการกระจายอำนาจลดลง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้ช้าลง และด้อยประสิทธิภาพลง รวมถึงมีอุปกรณ์เครื่องมือช่วยเหลือไม่เพียงพอ ส่วนงบประมาณช่วยเหลือของประชาชนนั้นน่าจะจัดสรรได้ แต่งบซ่อมแซมถนนและสิ่งปลูกสร้างของภาครัฐ อาจต้องรองบประมาณปี 2563 ซึ่งจะมีอนุมัติล่าช้าและเริ่มนำมาใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า