เศรษฐีโลกอ่วม! ครึ่งแรก 65 มหาเศรษฐีโลก 500 คนจนลงรวมกันเฉียด 50 ล้านล้านบาท

289
0
Share:

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยรายงานดัชนีมหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก หรือ Bloomberg Billionaire Index พบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด 500 คนแรกของโลก มีทรัพย์สินลดลงรวมกัน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 49.7 ล้านล้านบาท สาเหตุจากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานทั่วโลก ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง และธนาคารกลางของหลายประเทศเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวสวนทางกับช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ทรัพย์สินของมหาเศรษฐีเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่าทกลางรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มูลค่าของบริษัทเทคโนโลยีและสกุลเงินคริปโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นับตั้งแต่ต้นปี 2565 โดยเฉพาะสภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาพลังงานและอาหารทะยานสูงขึ้น สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยขยับสูงขึ้นเพื่อแก้วิกฤตเงินเฟ้อ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อหุ้นที่มีมูลค่าสูง ซึ่งบรรดามหาเศรษฐีที่เป็นเข้าของบริษัทชั้นนำต่างๆที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ล้วนสูญเสียมูลค่าบริษัทลงอย่างรวดเร็ว

ทรัพย์สินของนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอบริษัทเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ลดลงเกือบ 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.2 ล้านล้านบาท ขณะที่ความร่ำรวยนาย เจฟฟ์ เบซอส อดีตซีอีโอของบริษัท แอมะซอน อินคอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซ ลดลงราว 63,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.23 ล้านล้านบาท

แม้มูลค่าทรัพย์สินของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเหล่านี้จะลดลงอย่างมาก แต่ข้อมูลของบลูมเบิร์กก็ระบุว่า นายอีลอน มัสก์ ยังคงเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีทรัพย์สินอยู่ที่ 208,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นายเจฟฟ์ เบซอส มีทรัพย์สินมากเป็นอันดับสอง อยู่ที่ 129,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ