เศรษฐีไทยยังถอยซื้อบ้าน-คอนโดหรู 10 ล้านบาท วงการยอมรับขายลำบากแค่ 1 ใน 3 ของซัพพลายเปิดใหม่ล้นตลาด

351
0
Share:
เศรษฐีไทย ยังถอย ซื้อบ้าน -คอนโดหรู 10 ล้านบาท วงการยอมรับขายลำบากแค่ 1 ใน 3 ของซัพพลายเปิดใหม่ล้นตลาด

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา บ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีแนวโน้มขยายตัวสูง สวนทางยอดขายออกใหม่ ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะซัพพลายล้น โดยยอดเปิดตัวใหม่ ปี 2566 มีจำนวน 6,626 หน่วย เพิ่มขึ้น 131% จากปี 2565 ที่มีจำนวน 2,866 หน่วย และมีมูลค่า 136,353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121% จากปี 2565 ที่มีมูลค่า 61,851 ล้านบาท

ที่น่าสนใจ คือ อัตราการขยายตัวของกลุ่มคอนโด และบ้านเดี่ยวเพิ่มค่อนข้างสูง ดังนี้ คอนโดมิเนียมหรูหราราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 2,717 หน่วย เพิ่มขึ้น 1,774% โดยมีอัตราดูดซับ 1.4% ส่วนบ้านเดี่ยวหรูหราราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 3,698 หน่วย เพิ่มขึ้น 55.6% โดยมีอัตราดูดซับ 2.9% ซึ่งเป็นไปในทางตรงกันข้ามกับการขายออก (แนวราบ) ราคา 10 ล้านบาทที่ขายได้เพียง 1 ใน 3 ของซัพพลายใหม่ที่เข้ามา เช่น อสังหาริมทรัพย์ราคา 10 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียมมียอดขายได้ในในไตรมาส 4 ปีผ่านมาที่ 215 หน่วย จากหน่วยเสนอขายทั้งหมด 5,225 หน่วย สอดรับกับบ้านเดี่ยว ขายได้ 1,130 หน่วย จากหน่วยเสนอขายทั้งหมด 12,978 หน่วย

สำหรับอสังหาริมทรัพย์ราคา 20 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ในไตรมาสที่ 4 ปีผ่านไปมี 631 หน่วย แต่ขายได้ใหม่ได้ 81 หน่วย ส่วนบ้านเดี่ยวเปิดตัวใหม่มีจำนวน 1,171 หน่วย แต่ขายได้ใหม่เพียง 361 หน่วย

ข้อมูล ยังพบว่ามีโครงการสร้างเสร็จพร้อมขาย 3,200 หน่วย และมีโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง 7,000 หน่วย ส่วนโครงการในอนาคตมีอีก 2,700 หน่วย ที่จะมาเติมในฝั่งซัพพลาย แต่สถิติการขายไม่ได้เพิ่มขึ้น โดยยอดการเปิดตัวใหม่ที่ไม่สอดคล้องกับยอดขาย สะท้อนเป็นตัวเลขที่ชัดเจนในหน่วยเหลือขาย ปี 2566 จำนวน 18,570 หน่วย เพิ่มขึ้น 56.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันผ่านมา

หากเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิดปี 2561-2562 ที่มียอดเหลือขายเพียง 9,713 หน่วย และ 12,196 หน่วยตามลำดับ หรือคิดเป็นการขยายตัว 2 เท่า โดยมีมูลค่าเหลือขายในปี 2566 รวม 432,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีหน่วยเหลือขาย 271,886 หน่วย