เศรษฐีไทยเจนวายซื้อบ้านหรู 10-20 ล้านเป็นบ้านหลังแรก ตลาดบ้านหรูขายคึกคักเกือบ 80%

บริษัทไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่าตลาดบ้านหรูหราระดับราคาสูงในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ในประเทศไทย พบว่า บ้านหรูหราตั้งแต่ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในแง่สัดส่วนจะมีจำนวนน้อยที่สุด แต่กลับเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง มีอัตราการเติบโตดี ปัจจุบัน บ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปขายสะสมทั้งสิ้น 21,597 หน่วย จากปริมาณบ้านระดับราคาดังกล่าวจำนวน 27,274 หน่วย ดังนั้น อัตราการขายบ้านหรูระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไปจะอยู่สูงที่ 79.2%

สาเหตุจากผู้ซื้อในกลุ่มระดับบนมีความต้องการซื้อบ้านหรูหราต่อเนื่อง และเป็นผู้ซื้อที่ไม่มีปัญหาหรืออ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น หรือหนี้สินแต่อย่างใด เมื่อเปรียบเทียบกับบ้านที่อยู่อาศัยที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทลงมา จะพบว่าเป็นกลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนสูง ที่สำคัญมีปัญหากับอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการจึงต้องเข้าถึงกลุ่มที่มีศักยภาพในการซื้อสูงดังกล่าวแทน

ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เปิดเผยต่อไปว่า ระดับราคากลุ่มบ้านหรูหราในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่ถึง 53% มีราคาขายตั้งแต่ 10-20 ล้านบาท รองลงมาราว 20% อยู่ระหว่าง 21-30 ล้านบาท ถัดมาราว 12% มีราคาขายมากกว่า 50 ล้านบาท ต่อมาราว 11% เป็นบ้านมีราคาขายตั้งแต่ 31-40 ล้านบาท และมี 4% เป็นบ้านราคาขายแพงสุดระหว่าง 41-50 ล้านบาท

บ้านที่มีราคาขาย 10-20 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีความต้องการมากที่สุด โดยมีจำนวนหลัง ขายได้ 1,272 หน่วย คิดเป็น 60% ของหน่วยขายได้ทั้งหมด ที่สำคัญกลุ่มผู้ซื้อล้วนเป็นคนไทย 100% โดยมีอายุระหว่าง 30-35 ปี หรือเป็นคนกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย (Y อายุระหว่าง 21-37 ปี) มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว หรือแม้แต่เป็นกลุ่มที่ทำงานบริษัทเอกชนมาได้สักระยะ มีการเติบโตในสายงานที่รวดเร็ว และมีรายได้มากขึ้น ดังนั้นบ้านหรูตั้งแต่ 10-20 ล้านบาท จึงกลายเป็นบ้านหลังแรกของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง เพราะมองว่ามีศักยภาพ และความสามารถในการผ่อนได้