‘เสริมศักดิ์’รัฐมนตรีท่องเที่ยวคนใหม่ ตั้งเป้าปั้นรายได้ท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้าน

92
0
Share:

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ท่องเที่ยว และกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องทำทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ทำให้ท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาทต่อปี และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว (Tourism Hub) โดยการท่องเที่ยวจะต้องเกื้อกูลต่อการกีฬา พร้อมทำให้ทั้งการกีฬาเกื้อกูลการท่องเที่ยว และผลักดันให้ประสบความสำเร็จด้านกีฬา รวมถึงการปลุกจิตสำนึกของประชาชนในการออกกำลังกาย

ด้านการท่องเที่ยวจะต้องผลักดันอย่างครบวงจร บูรณาการทุกฝ่าย การที่นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจไปท่องเที่ยวที่ใดนั้นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและบริการมีความสำคัญ จะต้องมีการปรับปรุงและเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออย่างเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า โดยขอให้เน้นการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ทุกรูปแบบ โดยการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติตัดสินใจมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย จะต้องปรับการบริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่จำนวนเที่ยวบิน ค่าโดยสาร ระบบการเข้าเมือง ความสะดวกสบายและการบริการที่สนามบินและแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการคมนาคม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในภาพรวม

โจทย์ที่จะต้องดำเนินการคือ การหารายได้จากการท่องเที่ยวให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งขณะนี้เวลาล่วงมาแล้ว 4 เดือน ยังมีเป้าหมายที่จะต้องทำอีกมาก จึงได้มอบนโยบายเร่งด่วนด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะชะลอตัวลง โดยในระหว่างเดือนพฤษภาคมกันยายน เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจะต้องมีการส่งเสริมการตลาดเชิงรุกในกลุ่มวีซ่าฟรี จัดทำแพคเกจเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การตรวจสุขภาพ งานแต่งงาน การท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBTQ+ (กลุ่มข้ามเพศ) กลุ่มความเชื่อมูเตลู ที่มีการใช้จ่ายสูงนายเสริมศักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ วางแผนในช่วงวันหยุดยาวของประเทศจีน หรือ Golden week ช่วงวันที่ 1-7 ตุลาคม จะต้องคิดแคมเปญ หรืออีเวนต์ใหม่ๆ เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวชาวจีน จนถึงช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ระหว่างเดือนตุลาคมกุมภาพันธ์ จะต้องคิดแคมเปญ หรืออีเวนต์ใหม่ๆ เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ซึ่งหนีหนาวมาเที่ยวเมืองไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะวางแผนการท่องเที่ยวตั้งแต่ตอนนี้ นอกจากนี้ จะมีการหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ พวกเมืองน่าเที่ยว เพื่อพัฒนาแหล่งเที่ยวแบบโฮมสเตย์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้ และเป็นการใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างเหมาะสมซึ่งจะได้มีการรีบหารือกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป

ด้านกีฬาจะมุ่งส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จด้านการกีฬาอาชีพและสมัครเล่นควบคู่ไปกับการขยายการเข้าถึงการออกกำลังกายของประชาชนเพื่อรักษาสุขภาพ จึงได้มอบหมายนโยบายเร่งด่วนด้านการกีฬา ได้แก่ การผลักดันให้นักกีฬาประสบความสำเร็จ จะต้องทำให้กีฬาคืออาชีพนักกีฬาสามารถดำรงชีวิตและสร้างความมั่นคงให้แก่ตนเองได้ โดยผลักดันผ่านสโมสรกีฬาและสมาคมกีฬาต่างๆ การนำกีฬามาช่วยขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ การสร้างศูนย์กลางกีฬา (Sport Hub) ในระดับภูมิภาค การกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sport Tourism) การสร้างอีเวนต์กีฬาระดับโลก เช่น กอล์ฟ วิ่งมาราธอน ไตรกีฬา เรือใบ และอีสปอร์ต รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพ ลดความเจ็บป่วยจากโรคที่ไม่ติดต่อ (NCD: Non Communicable Diseases) โดยการผลักดันนโยบายท่องเที่ยวและกีฬา จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและบุคลากรของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน