เหลือเวลา 1 ปี! บิ๊กตู่ส่งสัญญาณเร่งทำงานช่วง 1 ปีที่เหลือของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงปลายของการแถลงในวันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า วันนี้มีความเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับเรื่องเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ทำอย่างไรจะให้หลุดพ้นจากความยากจนได้โดยเร็วที่สุดจึงได้สั่งการมอบนโยบาย ไปว่าจำเป็นจะต้องเร่งรัดในการดำเนินการหลายกิจกรรมในช่วง 1 ปีที่ยังเหลืออยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน และเตรียมพร้อมที่จะทำอะไรเพื่อที่จะส่งต่อไปในวันข้างหน้าของรัฐบาลต่อๆไป ทั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เป็นความต่อเนื่องและสอดคล้องไปยังรัฐบาลใดที่จะรับผิดชอบต่อไปก็ว่าไปตามนั้น

ตนไม่ได้ขัดข้องเรื่องแผนงานโครงการที่จะเสนอขึ้นมา แต่จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบโดยคณะอนุกรรมการและกรรมการหลายระดับทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะต้องมีส่วนร่วมในการพิจารณาโดยไม่ต้องการจะให้เกิดผลประโยชน์กับใครทั้งสิ้น แต่ประโยชน์จะต้องตกอยู่กับประชาชนคนไทยทุกคน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ตนยืนยันจะทำทุกอย่างให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่ละเว้นใครไว้ข้างหลังแม้แต่คนเดียว ไม่ใช่เฉพาะคนรักคนชอบแต่จะเห็นได้ว่าหลายอย่างมีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ ซึ่งตนจะไปโกรธเคืองใครไม่ได้ แต่ขอให้ระมัดระวังความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นทำให้บ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพ และทำให้งานต่างๆไปต่อไม่ได้ ขอให้รับฟังการชี้แจงที่เป็นประโยชน์ตามข้อเท็จจริงทั้งนี้เรื่องการพิจารณางบประมาณ ในชั้นกรรมาธิการ พร้อมยืนยันถ้ามีงบประมาณใดที่มีการแปรญัตติมาแล้วตนก็จะนำมาดำเนินการในการบริหารให้เพิ่มมากขึ้นตามความจำเป็น

ทั้งนี้ตนขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกคนที่ทำงานมาอย่างในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ covid 19 รายเดือนมาแล้วเป็นปีมาแล้ว บางคณะทำงานทุกวัน 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด หลายคนก็ป่วยบ้างตนก็เห็นใจ ทั้งเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ ไปจนถึงหน่วยงานท้องถิ่น นี่คือพลังของคนไทยที่จะชนะไปด้วยกัน แต่ก็ยินดีเศรษฐกิจในภาพรวมการส่งออกมีปริมาณมากขึ้นหลายสถานการณ์ในประเทศก็มีการฟื้นฟูมากขึ้นแล้ว จากการประเมินของหน่วยงานต่างประเทศที่ระบุว่าในปี 2565 หลายอย่างน่าจะดีขึ้นในทุกภูมิภาค จึงจะต้องเดินหน้าไปสู่เป้าหมายอย่างท้าทาย วันนี้ก็ต้องหวังพึ่งเศรษฐกิจรอบบ้านซึ่งมีสถิติสูงขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์

นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนจบการแถลงว่า อย่างไรก็ตามในฐานะนายกรัฐมนตรีที่อยู่กับประชาชนมาหลายปีแล้วทุกคนคงทราบดีว่าตนมีความตั้งใจอย่างไรและมีเจตนารมณ์เป็นอย่างไร ก็ขอเพียงความเข้าใจ ตนไม่เคยบังคับอะไรใครได้ เพราะเป็นเรื่องของประชาชนความต้องการของทุกคนและทุกภาคส่วน พร้อมยืนยันในความมุ่งมั่นและคณะรัฐมนตรีของตนที่จะดำเนินการทุกเรื่องให้ดีที่สุด อะไรที่เป็นปัญหาหรือซับซ้อนก็ลองดูว่ารัฐบาลได้หยิบมาแก้ปัญหาทุกอันหรือเปล่า และจะแก้ได้มากน้อยเพียงใดอย่างไร เพราะหลายอย่างก็มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของกฎหมายกฎกระทรวงอะไรต่างๆ รัฐบาลนี้ก็แก้ได้ทุกอย่าง ขอแต่เพียงความเข้าใจความร่วมมือ