เอกชนขอรัฐอย่าทิ้งกัญชา-กัญชง แนะเร่งสร้างมูลค่าเพิ่ม 14 อุตสาหกรรมมากกว่าเน้นปลูก

276
0
Share:
เอกชน ขอรัฐอย่าทิ้ง กัญชา - กัญชง แนะเร่งสร้างมูลค่าเพิ่ม 14 อุตสาหกรรม มากกว่าเน้นปลูก

นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TIHTA) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชาไทยในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่ 9 มิถุนายน 2565 ที่มีการปลดล็อคพืชกัญชง-กัญชา สมาคมฯ ได้สร้างเครือข่ายของอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชา และการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันพร้อมพัฒนาอุตสาหกรรมพืชกัญชง-กัญชาไทยให้มีความแข็งแรงตั้งแต่เกษตรกรต้นน้ำ ผู้ประกอบการด้านแปรรูป และผู้ผลิต รวมไปถึงการสร้างแนวทางให้กัญชง-กัญชาไทยตอบโจทย์ตลาดอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชาโลกให้ได้มากที่สุด

อุตสาหกรรมกัญชง-กัญชาไทยถือว่ามีความแข็งแรง และมีการขับเคลื่อนรวมถึงการวางมาตรฐานของอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ปี 2564 ครอบคลุม 6 มาตรฐานเพื่ออุตสาหกรรมกัญชง-กัญชา คือ
1. น้ำมันเมล็ดกัญชง
2. สารสกัดจากกัญชงที่มีปริมาณ CBD รวม ไม่น้อยกว่า 30%
3. สารสกัดจากกัญชงที่มีปริมาณ CBD รวม ไม่น้อยกว่า 80%
4. เปลือกกัญชง
5. แกนกัญชง
6. เส้นใยกัญชง

ทั้งนี้เพื่อนำมาเป็นมาตรฐานของการนำวัตถุดิบจากกัญชงมาใช้ในแต่ละประเภทอุตสาหกรรม จนปัจจุบันมีการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับพืชกัญชง-กัญชามากถึง 14 ประเภทอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ อาหารเครื่องดื่ม อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ยานยนตร์ วัสดุก่อสร้าง ไปจนถึงอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

ขณะที่การเติบโตของอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพืชกัญชง-กัญชาของไทยในช่วงปีที่ผ่านมา มีการเติบโตตามกรอบของระเบียบและกฎหมายการรับรอง ทั้งในแง่ของห่วงโซ่อุตสาหกรรม ได้แก่ การปลูก การสกัด และผลิตภัณฑ์ โดยข้อมูลจากแอปพลิเคชันปลูกกัญมีการลงทะเบียนการปลูกกว่า 1.1 ล้านคน และข้อมูลจากองค์การอาหารและยา และกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกมีพื้นที่การปลูกมากถึง 11,348,882 ตรม.

สำหรับใบอนุญาตผู้สกัดสารสำคัญ จำนวนทั้งสิ้น 89 แห่ง โดยแบ่งเป็นใบอนุญาตสกัดกัญชา 41 แห่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐทั้งหมด และใบอนุญาตสกัดกัญชง 48 แห่ง โดยมีเอกชน 39 ราย และหน่วยงานรัฐ 9 ราย สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านปลายน้ำ อ้างอิงจากระบบสืบค้นข้อมูลผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีกัญชา กัญชง เป็นส่วนประกอบ ของคณะกรรมการอาหารและยา มีการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับคณะกรรมการอาหารและยากว่า 1,000 รายการ ซึ่งแบ่งเป็นเครื่องสำอาง 77% อาหารและอาหารเสริม 19% และผลิตภัณฑ์สมุนไพร 4%

นอกจากนี้ ด้านมูลค่าตลาดข้อมูลจาก Euromonitor มูลค่าทางการตลาดกัญชงและกัญชาของประเทศไทยในปี 2565 มีมูลค่า 8,482 ล้านบาท และคาดการณ์เติบโตในปี 2570 จะมีมูลค่า 73,447 ล้านบาท

นายพรชัย กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ทำงานร่วมกับภาครัฐมาโดยตลอด มองว่าอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชาเป็นโอกาสของประเทศ โดยให้ผู้ประกอบการเน้นหนักไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะหากทุกคนมุ่งไปสู่การปลูกเป็นส่วนใหญ่ สุดท้ายก็จะเกิดการแย่งกันขายและตัดราคากันในที่สุด ทำให้ไม่เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มได้เลย