เอกชนแง้มเศรษฐา มีโอกาสขึ้นนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แก้เศรษฐกิจก่อนแก้การเปลี่ยนแปลง

438
0
Share:
เอกชน แง้ม เศรษฐา มีโอกาสขึ้นนั่ง นายก รัฐมนตรีคนที่ 30 แก้เศรษฐกิจก่อนแก้การเปลี่ยนแปลง

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย หรืออีคอนไทย กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ในมุมของผมคือ ก้าวไกล มองในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเป็นหลัก แต่เพื่อไทย มองในเรื่องของนโยบายทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจไทยค่อนข้างอ่อนแอ หากพรรคการเมืองต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงตามอุดมการณ์ คงไม่ได้ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักระยะ แต่ตอนนี้เรื่องหลักคือ รัฐบาลต้องเข้ามาแก้บาดแผลทางด้านเศรษฐกิจ และภาคการส่องออกที่ติดลบจากเศรษฐกิจโลกถดถอย

ดังนั้น หากมองจากคะแนนการโหวตในครั้งแรกที่ยังห่างอีกหลายคะแนน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่นายพิธาจะผ่านไปได้ ผมจึงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่นายเศรษฐา จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมองว่าเป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ ในมุมของคนค้าขายมองว่าน่าจะฝากความหวังไว้ได้

หากเป็นนายเศรษฐาจากพรรคเพื่อไทย มองว่ามีความเหมาะสม เพราะเป็นอดีตนักธุรกิจ และมีวุฒิภาวะ รวมถึงเห็นแนวโน้มที่จะมีการยืดหยุ่นนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

ประเด็นความกังวลเกิดขึ้นมาอีก คือ เรื่องการแทรกแซงทางการเมืองในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จะต้องจับตาดูต่อว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้พรรคเล็กหลายพรรคเริ่มขยับ แต่แนวทางจะเป็นอย่างไรยังยากที่จะคาดเดา อย่างไรก็ตาม ต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุดก่อนที่จะกระทบกับภาคการท่องเที่ยว และกระทบเรื่อความเชื่อมั่น เพราะตอนนี้หลายประเทศเริ่มจับตาดูความขัดแย้งในประเทศไทยว่าจะเป็นอย่างไร ทำให้มีผลกระทบทั้งภาคการลงทุน และท่องเที่ยว หากปล่อยให้ยืดเยื้อยาวนาน หรือรุนแรงถึงขั้นมีม็อบลงถนน ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจแน่นอน