เอสเต้ ลอเดอร์สั่งปลดพนักงาน 2,000 คน

938
0
Share:

เอสเต้ ลอเดอร์ คอสเมติก อินคอร์ปอเรชั่น บริษัทผลิตแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังระดับโลกในสหรัฐ ประกาศปลดพนักงานระหว่าง 1,000 ถึง 2,000 คนทั่วโลก หรือคิดเป็น 3% ของพนักงานทั้งหมดราว 66,000 คน นอกจากนี้ ประกาศปิดบูธเอสเต้ ลอเดอร์ ในห้างสรรพสินค้าราว 10-15% สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับผลประกอบการของยี่ห้อเครื่องสำอางหลายยี่ห้อที่อยู่ในเครือของเอสเต้ ลอเดอร์
.
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น (ปีงบประมาณของเอสเต้ ลอเดอร์) พบว่ายอดขายทรุดต่ำ -32% เหลือเพียง 2,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 77,760 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น ในไตรมาสที่ 3 มีผลขาดทุนพุ่งถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 192 ล้านบาท จากเดิมในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรถึง 555 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 17,760 ล้านบาท เครื่องสำอางยี่ห้อ M.A.C และ Too Faced มียอดขายที่ตกต่ำอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายเครื่องสำอางในภาพรวมทั้งหมดทรุดมากถึง -18%
.
เอสเต้ ลอเดอร์ ประกาศปรับการคาดการณ์ผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่ 1 อยู่ระหว่าง 80-85 เซนต์/หุ้น หรือ 25.6-27.2 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นตัวเลขกำไรต่อหุ้นที่ทรุดต่ำลงจากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 1.22 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น หรือประมาณ 40 บาท/หุ้น นอกจากนี้ ในด้านยอดขายถูกคาดการณ์ว่า จะมียอดขายตกต่ำระหว่าง -12% ถึง -13% เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ประเมินไว้ -11.42%
.
ทั้งนี้ เอสเต้ ลอเดอร์ คอสเมติก อินคอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งเมื่อปี 1964 มีอายุมาถึง 74 ปีในปัจจุบัน คาดว่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายจากการลดต้นทุนในครั้งนี้ระหว่าง 400-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12,800 – 16,000 ล้านบาท