‘เอสเอสไอ’ คาดผลกระทบจากสงครามรัสเชีย-ยูเครน ดันเหล็กราคาพุ่ง เสี่ยงขาดแคลน

612
0
Share:

นายนาวา จันทนสุรคน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็ก จากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยกังวลว่าผลกระทบจะลุกลามเป็นโดมิโน ทั้งเรื่องของราคาที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น แลปัญหาเหล็กขาดแคลน เนื่องจากรัสเซียและยูเครน เป็นประเทศส่งออกเหล็กไปทั่วโลก ในสัดส่วนสูงถึง 12% เมื่อรัสเซียถูกแซงชั่น และเกิดภาวะสงคราม อาจทำให้เหล็กในยุโรปขาดแคลน และต้องมาแย่งซื้อเหล็กในโควต้าที่ส่งมายังเอเชีย ส่งผลเหล็กในเอเชียขาดแคลนไปด้วยรวมถึงสินแร่เหล็ก ที่รัสเซียและยูเครน ส่งออกถึง 75 ล้านตัน ส่งออกมายังโรงงานเหล็กในเอเชีย ทั้ง จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย ต้นทุนโรงงานเหล็กพุ่งสูง และสะท้อนเป็นลูกโซ่มายังไทย

เบื้องต้นพบว่า ในปีที่ผ่านมา ราคาเหล็กในไทยดีดตัวขึ้น 60-80% ขณะที่ปีนี้ คาดว่าจะปรับขึ้นอีก 10-20% โดยจะเริ่มเห็นผลกระทบในไตรมาส 2 และหากสถานการณ์ยืดเยื้อ อาจทำให้เกิดปัญหาเหล็กขาดแคลนยาวถึงไตรมาส 3

ซึ่งสวนทางกับความต้องการใช้เหล็กในปีนี้ ที่คาดว่าทั่วโลกจะมีความต้องการใช้ 1,896 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ราว 2.2% ขณะที่ไทยคาดว่าจะมีความ
ต้องการใช้เหล็กในปีนี้ 19.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5% และส่วนใหญ่ต้องนำเข้า เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยไทยนำเข้า
เหล็กจากรัสเชียและยูเครน คิดเป็นสัดส่วน 7-8% โดย เอสเอสไอ เสนอแนวทางรับมือต่อภาครัฐ คือ เร่งปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ลดการ
พึ่งพาการนำเข้า และ พัฒนาตลาดสำรับอุตสาหกรรมเหล็ก