เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์พร้อมกลับมาเปิดให้บริการ 15 ต.ค.นี้

2528
0
Share:

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อยกระดับ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ สู่ความเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ของคนไทยและพร้อมรับการท่องเที่ยวระดับโลก ล่าสุดได้เปิดตัวแนวคิด “Heritage Alive” ต่อยอดการอนุรักษ์หลักฐานอิงประวัติศาสตร์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
.
“โดยมี 3 องค์ประกอบสำคัญที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ คือ เรือสิริมหรรณพ แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา “Living Museum & Art Festival” สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ใช้วิธีการนำเสนอด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัย กับผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบที่จัดแสดงตามโซนต่าง ๆ ทั่วพื้นที่ของเอเชียทีคฯ และ “New Mega Riverside F&B Destination” ด้วยการร่วมมือกับ “ครัวคุณต๋อย” ในการสร้างพื้นที่ศูนย์กลางอาหารอร่อยแห่งใหม่ ซึ่งจะมีร้านอาหารชื่อดังกว่า 70 ร้านมาเสริมทัพ” นางวัลลภา กล่าว
.
โดยวันที่ 15 ต.ค.นี้ ซึ่งเอเชียทีคฯ จะไม่เพียงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลก แต่ยังตอบโจทย์คนไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย และคาดว่าจะมีลูกค้ากลับมาใช้บริการในเบื้องต้นเป็นคนไทย 30,000 คนต่อวัน จากเดิม 50,000 คนต่อวัน และคาดว่ากว่าที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาคาดว่าจะต้นปี 2564 และกว่าจะกลับมาปกติเหมือนก่อนโควิด-19 คาดว่าไตรมาส 3-4 ปีหน้า
.
ยอมรับวันนี้ร้านค้าปัจจุบันยังลังเลที่จะกลับมา แต่ก็มีร้านค้าใหม่ก็พร้อมจะมาเช่าพื้นที่ แต่ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้เก็บค่าเช่ามาตั้งแต่เดือน มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ หลังจากนั้นในเดือนพ.ค. เอเชียทีค ก็ได้ปิดให้บริการพร้อมกับมีการปรับปรุงพื้นที่ภายใน ทำให้ไม่ได้เก็บค่าเช่าร้านค้ามาต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
.
ส่วนของคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการ แนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ หรือ Special Tourist VISA (STV) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ถือเป็นการปลดล็อกขั้นแรก และหากมาตรการภาครัฐสามารถดูแลด้านมาตรการความปลอดภัยได้พร้อมแล้วเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสามารถกลับมาได้