‘แกร็บ’ เปิดข้อมูลอินไซต์ผู้ใช้บริการเดลิเวอรีปี 2565 ยอดขายอาหาร-ของชำโต 24%

806
0
Share:
‘แกร็บ’ เปิดข้อมูลอินไซต์ ผู้ใช้บริการ เดลิเวอรี ปี 2565 ยอดขายอาหาร-ของชำโต 24%

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยอุดม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า รายงาน “เทรนด์ธุรกิจเดลิเวอรีปี 2565” (Delivery Trend Report 2022)” โดย “แกร็บ” ซึ่งได้ได้ศึกษาพฤติกรรมและสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้บริการที่มีต่อแพลตฟอร์มเดลิเวอรีกว่าสามหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครอบคลุม 6 ประเทศ อันได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและไทย ระบุว่าไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ยอดการจัดส่งเดลิเวอรีผ่านแพลตฟอร์มแกร็บเติบโตขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายต่อออเดอร์ (Basket size) ของการสั่งสินค้าหรืออาหารผ่านบริการแกร็บฟู้ดและแกร็บมาร์ทในปี 2565 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2562

สำหรับในประเทศไทย 3 เหตุผลหลักที่คนไทยเลือกใช้บริการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี คือ ความสะดวกสบายในการใช้บริการ การจัดส่งที่รวดเร็วและตอบโจทย์ความต้องการแบบออนดีมานด์ และเป็นตัวช่วยให้พวกเขาสามารถสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวได้ง่ายขึ้น

ผู้บริโภค 9 ใน 10 คนระบุว่า ชื่นชอบแบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และมองว่าปัจจุบันแอปพลิเคชันเดลิเวอรีไม่ได้ทำหน้าที่เพียงจัดส่งอาหารหรือของใช้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ

โดย 88% ของผู้ใช้บริการรู้จักร้านใหม่ๆ ผ่านการใช้แอปพลิเคชันเดลิเวอรี และกว่า 90% ของผู้ใช้บริการเปิดใจสั่งสินค้าจากร้านที่ไม่เคยรู้จักอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ด้านผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดย 9 ใน 10 รายของผู้ประกอบการในไทยกล่าวว่า แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด ขณะที่ 73% ของผู้ประกอบการในภูมิภาคระบุว่ายอดขายออนไลน์ส่วนใหญ่มาจากบริการแกร็บฟู้ด

แกร็บได้เผยอินไซต์ของผู้ใช้บริการแกร็บฟู้ดและแกร็บมาร์ทที่สะท้อน 3 เทรนด์ที่น่าจับตามองในปีหน้า อันได้แก่
เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น: อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงอาหารประเภทแพลนท์เบส (plant-based) ไม่ได้ถูกจำกัดความนิยมอยู่แค่ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป 74% ของคนไทยระบุว่าในทุก 2-3 วันจะมีการสั่งอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้อย 1 ครั้ง

ขณะที่ 2 ใน 5 ของผู้บริโภคเคยลองรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบหลักจากพืชหรือแพลนท์เบสในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

สแน็กและของว่างยามบ่ายมียอดขายเพิ่มสูงขึ้น: จากรายงานพบว่าคนไทย 2 ใน 5 ทานอาหารว่างหรือขนมขบเคี้ยวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ผู้คนกลับมาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น

การรับประทานอาหารว่างหรือสแน็กระหว่างวันจึงกลายเป็นกิจกรรมกลุ่มที่เพิ่มสีสันให้กับผู้บริโภค โดย 64% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาสั่งอาหารว่างสำหรับทานมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป

แพ็กเกจสมาชิกสำหรับผู้ใช้บริการเดลิเวอรีกำลังมาแรง: 1 ใน 3 ของผู้ใช้บริการเดลิเวอรีในปัจจุบันมีการสมัครใช้แพ็กเกจสมาชิก (Subscription) อย่างน้อย 1 แพ็กเกจเพื่อรับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้บริการที่ใช้แพ็กเกจสมาชิกมีอัตราการสั่งอาหารหรือสินค้าผ่านเดลิเวอรีบ่อยขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับผู้ใช้บริการทั่วไป

นอกจากนี้ยังมี 5 เมนูขายดีประจำปีบนแกร็บฟู้ด คือ 1) ไก่ทอด 2) กาแฟ 3) ส้มตำ 4) ข้าวซอย และ 5) ชาเขียวเย็น
กาแฟคือเครื่องดื่มยอดนิยม: คนไทยนิยมดื่มกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ทุกๆ 1 นาทีจะมีผู้ใช้บริการสั่งกาแฟผ่านแกร็บฟู้ดถึง 15 แก้ว หรือมากกว่า 7.8 ล้านแก้วตลอดทั้งปีเลยทีเดียว!

ส่วน 5 สินค้าขายดีบนแกร็บมาร์ท คือ 1) น้ำมันประกอบอาหาร 2) น้ำดื่ม 3) น้ำอัดลม 4) น้ำตาล และ 5) นม

ขณะเดียวกันยังพบว่า ATK กลายเป็นไอเทมมาแรง ทุกๆ 1 นาทีมีคนซื้อชุดตรวจโควิด 1 ชุดผ่านแกร็บมาร์ท หรือมากกว่า 525,000 ชุดตลอดทั้งปี และสินค้าขายดีช่วงปีใหม่ หนีไม่พ้น น้ำอัดลม พิซซ่า ไก่ทอด รวมถึงมันฝรั่งทอดกรอบ