แก้ยากมาก! จำนวนที่อยู่อาศัยล้นตลาดทั่วประเทศจีน มีเหลือพอคน 1,400 ล้านคนทั้งประเทศ

637
0
Share:
แก้ยากมาก! จำนวน ที่อยู่อาศัย ล้นตลาดทั่วประเทศ จีน มีเหลือพอคน 1,400 ล้านคนทั้งประเทศ

อดีตรองผู้อำนวยการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ จีนแผ่นดินใหญ่ นายเหอ เกิง กล่าวว่า หากพิจารณาจากจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยซึ่งว่างเปล่าทั่วทั้งประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ในปัจจุบันจะมีมากเกินพอที่รองรับประชาชนถึง 3,000 ล้านคน ตัวเลขดังกล่าวอาจฟังดูแล้วรู้สึกว่ามีปริมาณสต็อกที่อยู่อาศัยเหลือเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรจีนทั้ง 1,400 ล้านคน นั่นอาจหมายถึง ให้ประชากรจีนทุกคนทั้งประเทศมาอยู่อาศัยยังเหลือจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยอีกเหลือเฟือ ที่สามารถรองรับประชากรจีนได้อีก 1,600 ล้านคน

สำนักงานสถิติแห่งชาติ จีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า ข้อมูลถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2023 พบว่า จำนวนพื้นที่รวมกันทั้งหมดจากหน่วยอสังหาริมทรัพย์ใหม่ที่ยังไม่สามารถขายได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งประเทศอยู่ที่ 648 ล้านตารางเมตร หรือราว 7,000 ล้านตารางฟุต ซึ่งเมื่อลองคำนวนโดยยึดจากขนาดพื้นที่ที่อยู่อาศัยขนาดมาตรฐานเฉลี่ยที่ 90 ตารางเมตร หรือเทียบเท่าขนาด 970 ตารางฟุต จะทำให้เทียบเท้ากับจำนวนบ้านที่อยู่อาศัยใหม่ที่ยังขายไม่ได้มีมากมายถึง 7,200,000 หลัง

จำนวนพื้นที่รวมกันทั้งหมดจากหน่วยอสังหาริมทรัพย์ใหม่ที่ยังไม่สามารถขายได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ดังกล่าวนั้น ยังไม่นับรวมหน่วยที่อยู่อาศัยที่ขายล่วงหน้าไปหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างและยังดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากมายในจีนแผ่นดินใหญ่ตกอยู่ในวิกฤตสภาพคล่องขาดแคลนอย่างรุนแรงและเรื้อรัง รวมถึงจำนวนที่อยู่อาศัยจำนวนมากที่ถูกซื้อเพื่อการเก็งกำไรเมื่อปี 2016 เป็นต้นมา ยังไม่สามารถขายออกได้หมด

การแสดงความคิดเห็นที่มีต่อวิกฤตการณ์อสังหาริมทรัพย์ฟองสบู่แตกในจีนแผ่นดินใหญ่ของอดีตรองผู้อำนวยการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ จีนแผ่นดินใหญ่ในครั้งนี้ กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากมากที่ข้าราชการจีนแม้จะเกษียณจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์จีนไปแล้ว จะวิพากษ์วิจารย์สภาพเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ที่ย่ำแย่ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่

ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ จีนแผ่นดินใหญ่ กล่าวว่า การคาดการณ์หรือการประเมินต่างๆที่สื่อให้เห็นว่าเกิดการล่มสลายของเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ มีเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สิ่งที่ล่มสลายล้วนเป็นมุมมองหรือการพูดจาประเมินสถานการณ์เท่านั้น ไม่ใช่การล่มสลายของเศรษฐกิจแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีทั้งในประเทศและในต่างประเทศทั่วโลกว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่เผชิญวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายนับตั้งแต่ปี 2012 ต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งแผลอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มต้นจากบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษใหญ่อันดับ 2 ของจีน ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่จนถึงขั้นเลวร้ายด้วยการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้เสียมากที่สุดในโลก จนกระทั่งไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้คืนให้กับเจ้าหนี้ต่างประเทศและในประเทศได้ ส่งผลต้องประกาศล้มละลายเมื่อต้นกลางเดือนที่ผ่านไป

บริษัทคันทรี การ์เด้น โฮลดิ้งส์ อีหนึ่งยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ของจีนแผ่นดินใหญ่ เผชิญปัญหาสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลต่อความสามารถในการไถ่ถอนหนี้ และลูกค้าสูญเสียความเชื่อมั่นในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาขึ้นมาขาย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทซูนัค (Sunac) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงก่อนถึงปี 2022 และในเดือนสิงหาคมผ่านมามีขนาดใหญ่ร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 10 ของจีนแผ่นดินใหญ่ ประกาศยื่นล้มละลายต่อศาลแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และร้องขอต่อศาลให้พิทักษ์ทรัพย์สินตามกฏหมายล้มละลายมาตรา 15 ในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้กลายเป็นบริษัทในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายที่ 2 ของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ล้มละลายภายใน 1 เดือนผ่านมา