แฉ!!“วราวุธ ศิลปอาชา”รับ 600 ลบ.ซื้อขายตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ

3096
0
Share:

นายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เขตบางขุนเทียน ยื่นหนังสือถึง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผ่านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ร้องเรียนนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
.
โดยระบุว่า นายธัญญาซื้อขายตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นเงิน 600 ล้านบาท โดยจ่ายไปแล้วครึ่งหนึ่ง 300 ล้านบาท ให้กับนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะจ่ายอีกครึ่งหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
.
พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปเสียงบทสนทนาระดับผู้อำนวยการสำนัก ในการพูดคุยกันถึงส่วนแบ่งในการดำเนินการซื้อขายตำแหน่ง ส่วนเหตุผลที่ต้องมาเปิดโปงทั้งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะรัฐมนตรีไม่ควรทุจริต เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีนโยบายปราบปรามการทุจริต และยิ่งในสถานการณ์ขณะนี้การทุจริตไม่ควรเกิด
.
ที่สำคัญการที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมา เพราะมีการแบ่งเงินค่าดำเนินการไม่เท่ากัน ในการซื้อขายตำแหน่งระหว่างข้าราชการ และอธิบดีคนนี้มีคดีร้ายแรงมากกว่า 10 คดี แต่ก็ยังเป็นอธิบดีอยู่ได้ถือว่ามีเส้นใหญ่
.
นอกจากนี้ยังร้องเรียนอธิบดีกรมอุทยานฯ ทุจริตอีก 2 กรณี คือ เพิ่มเงินเดือนให้ภรรยาตัวเอง และคนใกล้ชิด 6% มากกว่า 10 ราย แต่ข้าราชการดีเด่นกลับได้การเลื่อนเงินเดือนน้อยกว่า รวมไปถึงทุจริตเปลี่ยนแปลงงบประมาณแผ่นดินไปเพาะชำกล้าไม้ เป็นเงินกว่า 109 ล้านบาท ซึ่งมีวัตถุประสงค์แอบแฝงจงใจทอนเงินงบประมาณเพื่อทุจริต
.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชี้แจงว่า ถ้าเป็นจริงอย่างที่ถูกกล่าวหาคงลาออกไปเที่ยวแล้ว และเรื่องที่ถูกกล่าวหา ก็มาจากอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ว่างมาก ตนเข้าใจได้ และการร้องเรียนเรื่องการรับเงินโยกย้าย เป็นเรื่องที่แปลกมาก
.
ทั้งนี้ตนได้โยกย้ายแต่งตั้งปลัดกระทรวง// อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง //อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และอธิบดีกรมน้ำบาดาล กลับไม่มีเรื่องร้องเรียน แต่กลับไปร้องเรียนเรื่องที่เกี่ยวกับกรมอุทยานที่ไม่ได้มีการโยกย้ายอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นจริง อธิบดีเหลือเวลาอีก 6 เดือน ต้องหาเงินเดือนละ 100 ล้านบาท ถ้าใช้สมองคิด ก็จะเห็นได้ว่าเป็นไปไม่ได้ อยากให้ผู้ร้องเรียนใช้สมองพูดในที่สาธารณะ เพราะศรีษะไม่ได้ใช้ทัดหูอย่างเดียว ต้องพิจารณาก่อนพูดด้วย
.
ส่วนคลิปเสียงจริงๆ ก็อยากได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นคลิปเสียงใครคุยกับใคร การมีคลิปเสียงไม่ได้แปลว่าอะไรเลย ถ้ามีหลักฐานอะไรก็ขอให้นำมา เพราะสิ่งที่ท่านนำมาพูด ตนจะนำไปเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องหมิ่นประมาท