แดงไม่หยุด! ดัชนีหุ้นนาสแดคร่วงหนักกว่า 150 จุด น้ำมันดิบโลกพลิกปิดเหนือกว่า 74 ดอลล์

161
0
Share:
แดงไม่หยุด! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ นาสแดค ร่วงหนักกว่า 150 จุด น้ำมันดิบโลกพลิกปิดเหนือกว่า 74 ดอลล์

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,714 จุด -12 จุด หรือ -0.04% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,328 จุด -19 จุด หรือ -0.45% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,335 จุด -156 จุด หรือ -1.16%

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นเดือนนี้จนถึงเมื่อคืนผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทะยานขึ้น +2.50%, +3.60% และ +3.1% ตามลำดับ สอดคล้องกับในต้นไตรมาสที่ 2 ถึงคืนผ่านมา ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทะยานขึ้น +1.30%, +5.30% และ +9.1% ตามลำดับ

สาเหตุจากสัปดาห์ผ่านไป นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด แถลงชี้แจงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากับคณะกรรมาธิการการเงิน รัฐสภาสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นปัจจัยลบต่อบรรยากาศการลงทุน ซึ่งกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังคงเป็นเป้าหมายที่ต้องดำเนินการต่อไป ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาที่มีสินทรัพย์ระหว่าง 100,000-250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 3.5-8.75 ล้านล้านบาทจะต้องเพิ่มเงินทุนในการดำเนินกิจการตามกฎเกณฑ์ใหม่ของเฟด

นักลงทุนเทขายทำกำไรช่วงสั้นอย่างต่อเนื่องหลังการแถลงชี้แจงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกากับคณะกรรมาธิการการเงิน รัฐสภาสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 วันติดกันในสัปดาห์ผ่านไป โดยประธานเฟดกล่าวว่า การลดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกายังคงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน

ขณะที่ตัวชี้วัดแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่เรียกว่า ซีเอ็มอีเฟดวอทช์ ทูล พบว่า มีโอกาส 67% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าว 0.25% ในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ให้น้ำหนัก 70% ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ที่สำคัญ โอกาสลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 69.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.3%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.18 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.5%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินสถานการณ์การเมืองในรัสเซียหลังจากเกิดการก่อกบฏโดยหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์เมื่อวันอาทิตย์ผ่านมา อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของการครองอำนาจประธานาธิบดีปูตินที่มึมานานถึง 23 ปี นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกพลัสโดยซาอุดีอาระเบียจะเริ่มตัดลดกำลังผลิตน้ำมันดิบในเดือนหน้าเป็นต้นไปตามมติของกลุ่มโอเปกพลัสที่ประชุมเมื่อต้นเดือนนี้ที่ผ่านมา

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,925.53 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +0.2% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,938 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +9.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.4%

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับปัจจัยเสี่ยงของสถานการณ์การเมืองรัสเซียที่อาจส่อแนวโน้มความไม่มีเสถียรภาพของอำนาจการเมืองของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียในอนาคต นอกจากนี้ ปัจจัยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญของโลดยังคงเป็นปัจจัยลบต่อเนื่องของตลาดทองคำ

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริการาว 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 67% มากกว่าเมื่อวานนี้ที่ระดับ 70%