แบงก์ชาติชี้ชัดเลือกนายกไม่แน่นอนสูง ลงทุนติดไฟแดงชะงัก โครงการใหม่ภาครัฐส่อเป็นศูนย์

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมผ่านมานั้น ยังประเมินได้ยาก เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูง ประเมินยากว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลจะจัดตั้งได้เมื่อไร

ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายภาครัฐที่งบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้ แต่ในส่วนเบิกจ่ายงบประจำยังมีงบกลางที่ยังใช้ดำเนินการไปได้อยู่ อาจไม่ได้ติดขัดมาก จะมีเพียงการเบิกจ่ายที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่ยังไม่สามารถมีโครงการใหม่ๆ ได้

นอกจากนี้ การลงทุนยังต้องรอความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ความเชื่อมั่นในเวลานี้เชื่อว่ายังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จากข้อมูลเบื้องต้นก็ยังมีความเชื่อมั่นอยู่ ซึ่งจากการเปรียบเทียบในอดีตที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะมีความวุ่นวายทางการเมือง เกิดการประท้วง ก่อม็อบก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบใดๆ มาก ยกเว้นหากเกิดความรุนแรงยืดเยื้อลากยาวจนกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุกชะงัก

ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องติดตามในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยจะสามารถสำเร็จเสร็จสิ้นได้หรือไม่ ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนโหวตนายกฯ จากอีกพรรคการเมืองหนึ่งนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามีผลต่อเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นอย่างไรหรือไม่