แบงก์ชาติลาวไฟเขียว ให้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ 2 แห่ง สามารถทำธุรกิจในลาวได้

526
0
Share:
เงินดิจิทัล

ธนาคารกลางลาว (BOL) ได้ออกใบอนุญาตให้บริษัท Lao Digital Assets Exchange (LDX) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง AIF Group และ Phongsupthavy Group และ Bitqik ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Simuong Group สามารถเปิดการซื้อขายสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีได้ โดยในปัจจุบัน LDX และ Bitqik เป็นเพียง 2 สถาบันที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายในลาว โดยบริษัทสามารถให้บริการโบรกเกอร์และการซื้อขายหลักทรัพย์ในสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบทั้งในประเทศลาวและในภูมิภาค

ทั้งนี้ คาดว่าแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีทั้งสองรายนี้ จะสามารถให้บริการเต็มรูปแบบได้ในเดือนเม.ย. ภายใต้ข้อกำหนดของ BOL ทั้งในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องลูกค้า เพื่อสร้างหลักประกันว่าการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลจะราบรื่นและปลอดภัย ทางด้านผู้ว่าการธนาคารกลาง กล่าวว่าได้ทุ่มเทเวลาและทรัพยากรในกระบวนการกำกับดูแลและทำให้สกุลเงินดิจิทัลสามารถนำมาชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยได้ประสานงานกับชุมชนธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาครัฐ เพื่อให้แน่ใจว่านักลงทุนจะได้รับการคุ้มครอง และมีความมั่นใจในการใช้งานแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตในประเทศลาว

สำหรับ AIF มีลิดทิกอน พุมมะสัก เป็นบริษัทจัดการลงทุน ทำหน้าที่จัดสรรเงินทุนให้ธุรกิจที่กำลังขยายตัว หรือมีอนาคตในหลายแขนงของลาว เช่น ธุรกิจพลังงาน และสาธารณูปโภค และยังลงทุนเองในเขื่อนผลิตไฟฟ้า 7 แห่ง รวมถึงเป็นผู้ลงทุนหลักในธุรกิจน้ำประปาในพื้นที่โซนเหนือของนครหลวงเวียงจันทน์ และยังมีบริษัทในเครือทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

กลุ่มพงซับทะวี ได้เริ่มต้นธุรกิจจากรับเหมาก่อสร้าง ต่อมาได้ขยายสู่ธุรกิจพลังงาน โดยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าหลายแห่ง เช่น เขื่อนเซน้ำน้อย 1 และ 6 เขื่อนน้ำเงียบ 3A เขื่อนน้ำซัน 3A และ 3B เขื่อนน้ำใส เขื่อนน้ำแก และเขื่อนน้ำเปิน 1 จากนั้นได้เข้าไปร่วมทุนในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ Song Luy 1 ในเวียดนาม และได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ 25% ในบริษัทผลิต-ไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL-Gen) มีเขื่อนผลิตไฟฟ้าในมือทั้งสิ้น 33 โครงการ กำลังการผลิตรวม 748.89 เมกะวัตต์ เขื่อนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีชายแดนติดกับเวียดนาม

และสีเมือง กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ มีกิจการหลากหลายอยู่ในเครือ ตั้งแต่ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้า รับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจพลังงาน โดยได้รับสัมปทานเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำฮุ่ง ที่แขวงไซยะบูลี และเขื่อนผลิตไฟฟ้าเซละมอง ในแขวงสะหวันนะเขต โดยเมื่อปี 2555 สีเมือง กรุ๊ป ได้เข้าซื้อหุ้นทั้ง 100% ในธนาคารร่วมพัฒนา ธนาคารพาณิชย์เอกชนแห่งแรกของลาว ทั้งนี้ ลิดทิกอน พุมมะสัก พงสะหวัด เสนาพวน และเอกกะพัน พะพิทัก เป็น 1 ใน 7 คลังสมองด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี พันคำ วิพาวัน