แบรนด์ธุรกิจโปรตีนจากพืชวูบหนัก ปลด 200 คน ผู้บริหารลาออกเพียบ หุ้นทรุดเหว

บียอนด์ มีท (Beyond Meat) บริษัทที่ทำธุรกิจโปรตีนจากพืช หรือแพลนท์ เบส ซึ่งเป็นธุรกิจในกระแสคนและโลกยุคใหม่ที่ถูกสร้างกระแสมากว่า 5 ปี ต้องประสบกับความยากลำบากอย่างรวดเร็วเกินคาดหมาย เมื่อฝ่าบริหารบริษัทดังกล่าวประกาศปลดพนักงานรอบที่ 2 มากถึง 200 คน หรือ 19% ของพนักงานทั้งหมด 1,100 คน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมผ่านมา ประกาศปลดพนักงานรอบแรกถึง 4% ของจำนวนพนักงานในเวลานั้น

สาเหตุจากบริษัทบียอนด์ มีท (Beyond Meat) ต้องการตัดลดค่าใช้จ่ายลงอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้บริษัทกลับมาอยู่รอดได้ในอนาคต การปลดพนักงานถึง 2 รอบภายในเกือบ 3 เดือน จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,482 ล้านบาทภายในช่วง 12 เดือนจากนี้ไป

นายอีธาน บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บียอนด์ มีท กล่าวว่า คงต้องใช้เวลาจนถึงภายในปีนี้ที่จะปลดพนักงานออกให้ครบตามเป้าหมาย เพื่อทำให้กระแสเงินสดของบริษัทกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง โดยการลดพนักงานครั้งนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งภายในช่วงกว่า 3 เดือน แต่ยังเป็นการปลดพนักงานรอบที่ 2 และมีจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่บริษัทเข้าซื้อขายหุ้นเป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย

ด้านราคาหุ้นบริษัทบียอนด์ มีท เมื่อคืนผ่านมา ปิดตลาดที่ราคาหุ้นละ 14 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเหลือเพียงหุ้นละกว่า 532 บาท ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทเหลือไม่ถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตกต่ำเหลือกว่า 34,200 ล้านบาท

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 บียอนด์ มีท เจ้าจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นเป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ด้วยราคาหุ้นไอพีโอหุ้นละ 25 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 950 บาทต่อหุ้น แต่ในเวลาไม่ถึง 3 ปีดีนัก ปรากฎว่าราคาหุ้นของบริษัทดำดิ่งลึกถึง -77% ซึ่งเป็นผลกระทบจากผลประกอบการด้านยอดขายที่ทรุดต่อเนื่อง รวมถึงเมนูที่ร่วมกับแบรนด์ดังยังไปไม่รอด

ราคาหุ้นบียอนด์ มีท เคยพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงหุ้นละ 234.90 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,926 บาทต่อหุ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2019

นอกจากนี้ ปัญหาด้านฝ่ายผู้บริหารในบียอนด์ มีท กลายเป็นปัจจัยลบกระทบต่อนโยบายและทิศทางในอนาคตด้วย ก่อนหน้านี้ นายดัก แรมซี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท ถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วยการกัดจมูกของชายคนหนึ่งและทุบรถในโรงจอดรถ จึงถูกแรงกดดันให้ลาออกจากบริษัท

นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขยายธุรกิจ หรือ Chief Growth Officer ถูกยุบหายไป นายดีนนา เจอร์เก้นส์ ซึ่งเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขยายธุรกิจได้ยื่นลาออกจากบริษัท ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก นายฟิลิป ฮาร์ดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือซีเอฟโอ ได้ลาออกจเมื่อต้นสัปดาห์นี้