แบรนด์รถไฟฟ้าจีน(อีวี) นีโอ ปลดพนักงานพุ่ง 10% ตกงานกว่า 2,600 คน ยังไม่เคยมีกำไร

125
0
Share:
แบรนด์รถไฟฟ้าจีน(อีวี) นีโอ ปลดพนักงาน พุ่ง 10% ตกงานกว่า 2,600 คน ยังไม่เคยมีกำไร

นายวิลเลียม ลี ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ นีโอ อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีสัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่และฐานผลิตรถอีวีที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่าได้ส่งเอกสารอีเมลเป็นการภายในบริษัท ระบุว่าเตรียมปลดพนักงานมีจำนวนมากถึง 10% ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยชี้แจงเหตุผลในการปลดพนักงานในครั้งนี้ว่า ตำแหน่งหน้าที่ที่ซ้ำซ้อน และไม่มีประสิทธิภาพ จะถูกตัดออกไป และโครงการลงทุนของบริษัทที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผลประกอบการของบริษัทภายใน 3 ปีนั้น จะถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และถูกตัดลดทอน หรือยกเลิกในที่สุด

สำหรับแบรนด์รถอีวี นีโอ นั้น เคยได้รับการประเมินว่าเป็นค่ายรถอีสีจีนที่มีเติบโตอย่างโดดเด่นราวกับดวงดาวที่ส่องสว่างในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ในปัจจุบัน นีโอเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากด้วยยอดขายที่ตกต่ำ และไม่เป็นไปตามเป้าหมายการขาย ที่สำคัญ ผลประกอบตกต่ำถึงขั้นประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง

ผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด พบว่า แบรนด์รถอีวีนีโอมีผลขาดทุนมากถึง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขาดทุนสูงถึง 29,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขผลขาดทุนที่เหนือกว่าคาดหมายมาก โดยยังไม่สามารถทำผลกำไรได้เลย ขณะที่ มูลค่าของบริษัท นีโอ อินคอร์ปอเรชั่น ดำดิ่งอย่างมากมาเหลือเพียง 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 481,000 ล้านบาท จากที่เคยใหญ่โตสูงสุดมีมูลค่ามากถึง 99,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.66 ล้านล้านบาทเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 หรือเมื่อเพียง 1 ปี 8 ผ่านมา

นายวิลเลียม ลี ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ นีโอ อินคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถือว่ายากลำบากแต่เป็นความจำเป็นเพื่อต่อสู้กับการแข่งขันตลาดรถอีวีที่รุนแรง การเดินทางของธุรกิจรถไฟฟ้าหรืออีวีของนีโอเป็นการเดินทางที่มาราธอนบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความโคลนตมมากมาย

การปลดพนักงานมากถึง 10% ในครั้งนี้ จะทำให้พนักงานในบริษัทนีโอต้องตกงานมากถึง 2,673 คน เนื่องจากจำนวนพนักงานของค่ายรถไฟฟ้านีโอมีจำนวน 26,763 คนเมื่อสิ้นสุดสิ้นปี 2022 ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันจำนวนพนักงานยังคงอยู่ในจำนวนใกล้เคียงกับจำนวนเดิม

การตัดสินใจปลดพนักงานมากกว่า 2,600 คน รวมถึงปิดสายงานหรือแผนกงานในครั้งนี้ สะท้อนถึงภาวะตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีนแผ่นดินใหญ่ที่เผชิญกับภาวะข้อจำกัดมากมายที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากค่ายรถอีวีบีวายดี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถอีวีสัญชาติเดียวกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงแบรนด์รถอีวีระดับโลกอย่างเทสลาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างมากจนกระทบต่อความอยู่รอดของธุรกิจแบรนด์รถอีวีสัญชาติจีนอื่นๆ

ปัจจุบัน นีโอ เป็นแบรนด์รถอีวีที่มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 2.1% ของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรวมถึงประเภทไฮบริดด้วย ด้านยอดขายของค่ายนีโอ พบว่าตั้งแต่ต้นปีมาถึงสิ้นสุดเดือนกันยายน 2023 มียอดขายทำได้เพียง 110,000 คัน จากเป้าหมายทั้งปี 2023 นี้ที่ 250,000 คัน หรือเฉลี่ยขายได้เพียงเดือนละ 12,222 คัน ห่างจากเป้าหมายที่ต้องขายถึงเดือนละเฉลี่ย 20,833 คัน ในขณะเดียวกัน คู่แข่งยักษ์ใหญ่อันดับ 1 อย่างบีวายดีทำยอดขายเฉพาะรถอีวี 100% ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้รวม 165,000 คัน ถ้าหากรวมประเภทไฮบริดด้วย บีวายดีจะมียอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารวมมากถึง 301,095 คัน

บริษัท นีโอ อินคอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 หรือเมื่อ 9 ปีผ่านมา ดำเนินกลยุทธ์การทำตลาดรถอีวียี่ห้อนีโอด้วยการเน้นสร้างสีสันและความประทับใจให้ลูกค้าด้วยการออกแบบโชว์รูมที่ตกแต่งด้วยสีสันฉูดฉาด พร้อมห้องรับรองลูกค้าระดับเฉพาะเจาะจง หรือ Exclusive ที่ออกแบบไม่แตกต่างจากยานอวกาศมีขื่อเรียกว่า นีโอ เฮ้าส์ เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการในนีโอ เฮ้าส์ จะได้รับบริการเครื่องดื่ม และการปฏิบัติราวกับเป็นลูกค้ามีระดับ นอกจากนี้ ยังได้รับบริการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงบริการช่วยเหลือรถฉุกเฉินและการชาร์จไฟฟ้าเคลื่อนที่

ทั้งนี้ นีโอ อินคอร์ปอเรชั่น นอกจากจะทำธุรกิจในฐานะผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีสัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว ยังประกอบธุรกิจประเภทอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับรถอีวี ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่และเซมิคอนดักเตอร์ และธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือสมาร์ทโฟน