แบรนด์รถไฟฟ้าบีวายดีขายแซงโฟล์คสวาเก้นในจีนครั้งแรกใน 15 ปี ขึ้นแท่นอันดับ 1

294
0
Share:
แบรนด์ รถไฟฟ้า บีวายดี ขายแซง โฟล์คสวาเก้น ในจีนครั้งแรกใน 15 ปี ขึ้นแท่นอันดับ 1

บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในจีนและในโลก เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ผ่านมา สามารถทำยอดขายรถบีวายดีในประเทศได้ถึง 440,000 คัน ส่งผลให้รถไฟฟ้าบีวายดีมียอดขายชนะค่ายรถยนต์โฟล์คสวาเก้นเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งเป็นปีแรกที่แบรนด์โฟล์คสวาเก้นจากเยอรมนีเป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุด และมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์จีนแผ่นดินใหญ่

เมื่อเดือนมีนาคมผ่านไป นายหวัง ชานฟู ประธานบริษัทบีวายดี กล่าวว่า มีเป้าหมายที่จะทำยอดขายบีวายดีในประเทศให้แซงรถยนต์ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้นให้ได้ภายในสิ้นปี 2023 แต่เพียงไตรมาสที่ 1 ปีนี้ บีวายดีประสบความสำเร็จในความสามารถทำยอดขายมากกว่าโฟล์คสวาเก้น โดยแบรนด์ค่ายรถยนต์จากเยอรมนีมียอดขายเพียง 427,247 คัน ห่างจากยอดขายบีวายดี 12,753 คัน ในจำนวนยอดขายรวมดังกล่าวของโฟล์คสวาเก้น พบว่า มี 6% เป็นยอดขายรถไฟฟ้า 100% หรือรถอีวี

นายโอลิเวอร์ บลูมเม่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ โฟล์คสวาเก้น เอจี กล่าวยอมรับว่า บีวายดีเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าที่แข็งแรงมากๆ ในท้ายที่สุดแล้ว ไม่ใช่เฉพาะยอดขายรถยนต์เท่านั้น โฟล์คสวาเก้นต้องการการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

บีวายดี เปิดเผยว่า ยอดขายรถไฟฟ้าในปี 2022 สามารถขายได้ 1.86 ล้านคัน ซึ่งเป็นยอดขายภายในปีเดียวที่มากกว่ายอดขายทั้ง 4 ปีติดกันก่อนหน้านั้น ส่วนยอดขายในประเทศของไตรมาสที่ 1 จำนวน 440,000 คันล้วนเป็นยอดขายรถไฟฟ้าทั้งหมด นั่นหมายความว่า ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ทุกๆ 2 ใน 5 คัน จะเป็นยี่ห้อบีวายดี

สำหรับส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ในจีนแผ่นดินใหญ่ พบว่า อันดับ 1 บีวายดีมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 38.8% อันดับ 2 เทสลามี 10% อันดับ 3 จีเอซี ไอออน 6.1% อันดับ 4 เอสเอไอซี-จีเอ็ม 5.9% อันดับ 5 ฉางอัน 4.6% อันดับ 6 จี่หลี 4.5% อันดับ 7 ลี ออโต้ 4.0% อันดับ 8 นีโอ 2.4% อันดับ 9 โฮซอน 1.7% และอันดับ 10 บีเอ็มดับเบิลยู บริลเลียน 1.6%

ทั้งนี้ บีวายดีกำหนดเป้าหมายยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี 2023 อย่างน้อย 3 ล้านคัน ซึ่งอาจทำได้สูงถึง 3.7 ล้านคัน ด้านราคาหุ้นบริษัทบีวายดีที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมีราคาเพิ่มสูงถึง 16% ตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลลีวายดีมีมูลค่าตลาดที่ 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.32 ล้านล้านบาท ขณะที่โฟล์คสวาเก้นมีมูลค่าตลาดที่ 77,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.70 ล้านล้านบาท ในขณะที่ เทสลามีมูลค่าตลาดที่ 515,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 18 ล้านล้านบาท