แพทย์ชี้โรคโควิด-19 จะอยู่กับมนุษยชาติตลอดไป และจะกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ หลบภูมิเก่งขึ้น

292
0
Share:
แพทย์ชี้โรค โควิด-19 จะอยู่กับมนุษยชาติตลอดไป และจะกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ หลบภูมิเก่งขึ้น

ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก เปิดเผยว่าโรคโควิด-19 จะอยู่กับมนุษยชาติตลอดไป และจะกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ และทุกครั้งที่กลายพันธุ์ก็จะเกิดสายพันธุ์ที่หลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนหรือเกิดจากการติดเชื้อที่ผ่านมา เพราะสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์และหลบภูมิคุ้มกันได้เก่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด และในที่สุดจะทดแทนสายพันธุ์เดิม

ที่จริงแล้วสายพันธุ์ โอมิครอน BA.2.75 นับว่าอยู่ค่อนข้างนาน แต่เมื่อคนติดเชื้อสายพันธุ์นี้ไปจำนวนมากแล้ว สายพันธุ์ใหม่ที่หลบหลีกภูมิคุ้มกันก็จะขึ้นมาแทนที่ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ ตระกูล XBB ซึ่งตัวล่าสุดที่ระบาดในอเมริกาคือ XBB.1.5 และที่ระบาดในอินเดียคือ XBB.1.16 ซึ่งมีการศึกษาพบว่ามันแบ่งตัวได้เก่งกว่าเดิม และเป็นที่คาดว่าจะเข้ามาในประเทศไทยและระบาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์สนุกสนานเจอคนมากมายใกล้ชิด มีโอกาสที่นักท่องเที่ยวนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาได้มาก เพราะความระมัดระวังในการติดเชื้อของเรามันเริ่มน้อยลงและการฉีดวัคซีนเข็มสุดท้าย ส่วนใหญ่จะทิ้งช่วงไปนานกว่า 3-4 เดือนแล้ว

– ที่จริงแล้วสายพันธุ์ XBB ทุกตัว และโอมิครอน ที่ผ่านมาทั้งหมดมิได้มีความรุนแรงมากขึ้น และมิได้ดื้อยารักษาตัวใด แต่จะดื้อภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป อย่างไรก็ดี โอมิครอนทุกสายพันธุ์ มีโอกาสจะรุนแรงสำหรับกลุ่มเสี่ยง 608 โดยเฉพาะที่ไม่เคยรับวัคซีนหรือได้รับน้อยกว่าสามเข็ม คนทั่วไปที่ได้รับวัคซีนมาแล้วหลายเข็มหากทิ้งช่วงนานกว่า 3-4 เดือน ระดับภูมิคุ้มกันจากวัคซีนหรือจากการติดเชื้อในครั้งก่อน ก็จะแผ่วลดลงตามธรรมชาติทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้แต่มักจะไม่รุนแรง

– การฉีดวัคซีนซ้ำ จะเพิ่มภูมิคุ้มกันข้ามไปยังสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้ดี แม้วัคซีนจะป้องกันได้ไม่สมบูรณ์ แต่ลดความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อะไร วัคซีนได้ผลดีไม่ว่าจะเป็นวัคซีนรุ่นเก่า (monovalent) หรือรุ่นใหม่ (bivalent) ซึ่งขณะนี้เรามี bivalent BA.1 (Pfizer)และ bivalent BA.4/5 (Moderna) ในปริมาณไม่มากอาจจะกระจายไม่ทั่วถึงทุกที่

รวมทั้งเป็นความจริงว่าวัคซีน bivalent จากกระตุ้นภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคจากสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ได้สูงกว่าวัคซีนรุ่นเก่า แต่เมื่อถึงเวลาที่ระดับภูมิคุ้มกันเริ่มตกลงไปแล้วการฉีด ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนรุ่นไหนแบบไหนดีกว่าไม่ฉีดอย่างแน่นอน

เนื่องจาก โควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำฤดูกาลเหมือนเช่นไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งประชาชนเกือบทั้งหมดจะมีภูมิคุ้มกันแล้วจากการฉีดวัคซีนที่ผ่านมาหรือติดเชื้อไปแล้ว จึงมีแนวทางที่จะปรับการฉีดวัคซีน ให้เป็นการฉีดกระตุ้นประจำปี ปีละหนึ่งครั้งเหมือนไข้หวัดใหญ่ โดยควรฉีดก่อนเข้าฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูที่จะเกิดการระบาดของไวรัสทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ซึ่งในจังหวะเดือนเมษาถึงมิถุนายนเป็นช่วงที่สมควรฉีดวัคซีนประจำปีเป็นอย่างมาก

เมื่อมีโอกาสควรรีบฉีดทันทีเพราะ “ฉีดก่อนป้องกันก่อน” ควรห่างจากเข็มสุดท้ายหรือการติดเชื้อครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 3 เดือน ใช้วัคซีนอะไรก็ได้ถ้าได้รุ่นใหม่ก็ยิ่งดี แต่รุ่นเก่าก็ยังใช้ได้ มิฉะนั้นจะพลาดถ้าเป็นโรคไปเสียก่อน (แม้ว่าโรคจะไม่รุนแรงในผู้ที่ฉีดวัคซีนมาแล้วหลายเข็ม แต่ก็ไม่อยากให้เป็นกันเลย เพราะต้องหยุดงานและไม่สบาย มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้)

-ในขณะนี้ทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 กำลังระบาดอยู่พร้อมๆ กัน และมีอาการที่ไม่แตกต่างกัน หากเป็นทั้งสองโรคพร้อมกัน อาการจะหนักกว่าเป็นโรคเดียว จึงแนะนำว่าควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้ง โควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ไปพร้อมๆ กันเลย หรือจะฉีดห่างกันกี่วันก็ได้ไม่มีข้อห้ามเลย

– การรักษายังเหมือนเดิมแต่ ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปจะใช้ไม่ได้ผลเสียแล้วถ้าเป็น XBB แต่ตอนนี้ยังพอได้ผลอยู่ เพราะส่วนหนึ่งยังเป็นสายพันธุ์เดิม BA.2.75

นอกจากนี้ ศ.พญ.กุลกัญญา ยังได้สรุปคำตอบของคำถามเกี่ยวกับโควิด 19 ด้วย ดังนี้

– มันกลับมาใหม่แล้วใช่ไหม?…
มันไม่เคยจากไปไหน เพียงแค่สงบลงไปชั่วคราวและใช่แล้ว ตอนนี้กำลังมาเป็นคลื่นใหม่ โดยเฉพาะกำลังเข้าหน้าฝนด้วย

– สายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 น่ากลัวขึ้นไหม รุนแรงขึ้นกว่าเดิมไหมและดื้อยาแล้วหรือ?…
ไม่รุนแรงกว่าเดิมไม่ดื้อยากว่าเดิม แต่มีรายงานว่าพบอาการตาแดงมากขึ้นโดยเฉพาะในเด็ก และการรักษายังเหมือนเดิม ไม่ได้มีการดื้อยาต้านไวรัส มากขึ้น

– ฉีดมาแล้วตั้งหลายเข็ม เราจะต้องฉีดวัคซีนอีกแล้วเหรอ?
ควรฉีดหากเข็มสุดท้ายเกิน 3-4 เดือน เพราะสายพันธุ์ XBB ค่อนข้างจะหลบภูมิได้ดี ทำให้ภูมิคุ้มกันของเดิมประสิทธิภาพสั้นลง อย่าเบื่อเรื่องวัคซีนเลย เพราะสุดท้ายเราต้องฉีดกระตุ้นปีละครั้ง ไม่ต้องนับจำนวนเข็มที่ผ่านมาแล้ว (กลุ่มเสี่ยงสูงมากๆ ควรพิจารณาฉีดปีละสองครั้ง)

– ใช้วัคซีนแบบไหนรุ่นไหนดี? ควรฉีดเมื่อไหร่?…
รุ่นใหม่จะดีกว่ารุ่นเก่าประมาณ 30% แต่ใช้ได้ดีทั้งคู่ และภาพรวมในการป้องกันโรคต่างกันไม่มาก เมื่อถึงเวลาที่สมควรฉีดมีอะไรก็ฉีดอย่างนั้น อย่ามัวแต่รอ อาจจะไม่ทันได้ฉีดจะเป็นโรคไปเสียก่อน และไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนไหนภูมิคุ้มกันก็ตกลงตามกาลเวลา

– วัคซีนจะป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ไหม?…
ตอบว่าได้ ประสิทธิภาพป้องกันได้ประมาณ 60-80% โดยเฉพาะเมื่อฉีดมาแล้วหลายหลายเข็ม และป้องกันได้ดีในช่วง 3-4 เดือนหลังฉีด แม้จะป้องกันได้ไม่ 100% แต่ลดความรุนแรงได้มาก ซึ่งสำคัญมากสำหรับกลุ่มเสี่ยง 608

– ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB, Evusheld) ยังใช้ได้ผลอยู่หรือไม่?…..
ตอนนี้ยังได้ผลอยู่บ้างแต่ถ้าในอนาคตสายพันธุ์ XBB มาแทนที่เกือบหมดก็จะใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปไม่ได้ผล ย้ำว่าการป้องกันที่ยังได้ผลดี ก็ยังเป็นการสวมหน้ากากเมื่อต้องไปพบกับคนมากๆ หมั่นล้างมือ และเว้นระยะห่าง