แห่ขายทิ้ง! เศรษฐกิจไทยแย่หลายปีผสมโควิด-19 ยืดเยื้อ ทุบกิจการโรงแรมหาดใหญ่ไปต่อไม่ไหว 10 แห่ง

นายสมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากร เจ้าของ และผู้จัดการโรงแรมกลุ่มเอเชียน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเคยเป็นรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า โรงแรมที่เป็นสมาชิกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่มีห้องพักรวมทั้งหมดประมาณ 40,000 ห้อง และมีโรงแรมที่ไม่เป็นสมาชิกอีกประมาณ 10,000 ห้อง นอกจากนี้มีโรงแรมบริเวณบ้านด่านนอก เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นรอยต่อกับรัฐเกดะห์ แนวพรมแดนไทย และมาเลเซีย จุดดังกล่าวเป็นศูนย์เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ซึ่งมีโรงแรมอีกประมาณ 4,000 ห้อง

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 มาเป็นเวลา 1 ปีหว่า มีโรงแรมขนาด 100-200 ห้อง เปิดดำเนินการไม่เกิน 5% และมีโรงแรมที่เป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลาปิดตัวลง 60 แห่งไปแล้ว แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแล รักษาโรงแรมเพื่อป้องกันการชำรุดเสื่อมโทรม โดยเฉพาะโรงแรมขนาดกว่า 120 ห้อง ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 200,000 บาท

กรณีที่มีโรงแรมประกาศขายกิจการ เพราะไม่สามารถรับกับสภาพแบกภาระค่าใช้จ่าย ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มทุนโรงแรมขนาดใหญ่ของประเทศไทยมีการติดต่อซื้อเหมือนกัน แต่เสนอราคาประมาณ 35% จึงไม่มีรายใดตัดสินใจขายกิจการ

ด้านนายกมล สุทธิวรรณโนภาส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง เจ้าของโรงแรมไชน่าการ์เด้น หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า
ธุรกิจโรงแรมในกลุ่มได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ปลายปี 2562 ต่อเนื่องมากระทบหนักในปี 2563 ปัจจุบันเงินสำรองในการประกอบการธุรกิจหมด ถึงขณะนี้ยังมองไม่เห็นลู่ทางที่จะฟื้นขึ้นมา สาเหตุจากหาดใหญ่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นกลุ่มหลัก รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ และชาวอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซียก็ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 อย่างหนักไม่ต่างกับประเทศไทย ถึงขั้นปิดประเทศมา 3 รอบ ดังนั้น จึงเกิดการประกาศขายกิจการโรงแรม 10 กว่าแห่งในหาดใหญ่ โดยเฉพาะโรงแรมบริเวณย่านดาวน์ทาวน์ในเมืองเทศบาลนครหาดใหญ่ สาย 2 และสาย 3 ถนนนิพัทธ์อุทิศ เป็นต้น