โกลด์แมน แซคส์ ชี้แบงก์ชาติสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 7 ครั้งในปีนี้ รับเงินเฟ้อพุ่งสูง

464
0
Share:
ธ.โกลด์แมน แซคส์

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น หรือดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ 2565 รวมทั้งหมด 7 ครั้งๆ ละ 0.25% หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 1-2 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่เคยประเมินว่าจะปรับขึ้น 5 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ในแง่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงถึง 0.5% อาจเป็นไปได้ในการประชุมของเฟดครั้งต่อไปในเดือนมีนาคมนี้

นอกจากนี้ คาดว่าเฟดจะเริ่มต้นลดงบดุลบัญชีของเฟด หรือลดมาตรการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในระบบการเงินตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

การประเมินแนวโน้มดังกล่าวใหม่ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เป็นผลจากเมื่อคืนที่ผ่านมา 10 กุมภาพันธ์ 2565 (ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา) ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี พุ่งทะยานเหนือ 2% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2019 หลังจากกระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม 65 ประกาศเมื่อคืนผ่านมาเพิ่มขึ้น 0.6% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคมพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.5% ทำสถิติพุ่งทะยานสูงสุดในรอบ 40 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 1982 เป็นต้นมา

ที่สำคัญ เงินเฟ้อขั้นพื้นฐานในเดือนเดียวกันพุ่งขึ้น 6% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ นอกจากนี้ จำนวนแรงงานชาวอเมริกันขอใช้สิทธิสวัสดิการรายสัปดาห์ลดลงมาอยู่ที่ 223,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 230,000 คน ปัจจัยทั้งหมดสร้างความกังวลอย่างมากให้กับนักลงทุนหุ้น เนื่องจากเป็นการสร้างแรงกดดันให้แนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย และอาจขึ้นมากกว่าที่คาดไว้

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยต่อไปว่า การเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า เฟดจะเร่งลดมาตรการคิวอี และรีบเร่งขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น เพื่อทำให้ตัวเลขงบดุลบัญชีของเฟดลดต่ำลงจากระดับในปัจจุบันที่มีมูลค่าสูงมากถึง 8.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 299.2 ล้านล้านบาท