โควิดกลายพันธุ์ทำวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าประสิทธิภาพลดลง

548
0
Share:

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเทศแอฟริกาใต้ นาย Zweli Mkhize เปิดเผยว่า มีคำสั่งยุติโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ด้วยวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้าและมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดในประเทศแอฟริกาใต้ สาเหตุจากผลการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับอาสาสมัครที่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธ์ุในกลุ่มที่แสดงอาการป่วยของโรคปานกลาง
.
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แอฟริกาใต้ กล่าวต่อไปว่ารัฐบาลจะรอคำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์ที่มีรหัสพันธุกรรม 501Y.V2 ซึ่งเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ และถูกพบในต่างประเทศมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
.
จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบฉีดวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้าและมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด เทียบกับการฉีดวัคซีนหลอกในกลุ่มอาสาสมัครรับการทดลองในแอฟริกาใต้ พบว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้าและมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด มีผลป้องกันเหลือเพียง 22% ในกลุ่มที่มีอาการป่วยปานกลางหรือป่วยเบาบาง ซึ่งถือได้ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกัน และลดการแพร่กระจายเชื้อต่ำมาก เมื่อเทียบกับเกณฑ์การพิจารณาว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต้องมีประสิทธิภาพตั้งแต่ 50% ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม วัคซีนดังกล่าวไม่ได้ถูกประเมินถึงความสามารถในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เนื่องจากการทดสอบอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งไม่ได้พิจารณาว่าเป็นกลุ่มที่มีอาการป่วยรุนแรง
.
รัฐบาลแอฟริกาใต้ ตั้งความหวังไว้ว่า จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศได้ถึง 40 ล้านคน หรือราว 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แต่จนถึงขณะนี้ รัฐบาลยังไม่สามารถดำเนินโครงการฉีดวัคซีนได้แม้แต่คนเดียว สำหรับวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า ที่รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้รับมีจำนวน 1 ล้านโดส ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย หรือ SII ซึ่งเป็นแหล่งผลิตวัคซีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
.
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข แอฟริกาใต้ เปิดเผยว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เพิ่มขึ้น 2,435 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมขึ้นเป็น 1,476,135 ราย อยู่อันดับที่ 15 ของโลก ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายใหม่มีเป็นจำนวน 110 ราย ส่งผลผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 46,290 ราย
.