โควิดติดสหรัฐมากสุดในรอบเกือบปี กว่า 243,000 คน นิวยอร์กติดนิวไฮเฉียด 29,000 คน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงถึงเมื่อวานนี้ 22 ธันวาคม 2564 (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 243,619 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากที่สุดในรอบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นมา ที่สำคัญจำนวนเฉลี่ยติดเชื้อรายวันในช่วง 7 วันติดต่อกัน พุ่งทะยานถึง 40.9% เมื่อเทียบกับช่วง 7 วันก่อนหน้านี้ ส่งผลให้จำนวนติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 51,948,200 ราย อยู่อันดับที่ 1 ของโลก ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2,057 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 813,908 ราย มากเป็นอันดับ 1 ของโลก
มหานครนิวยอร์กในรัฐนิวยอร์ก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึง 17,221 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ส่งผลให้รัฐนิวยอร์กมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งทะยานถึง 28,924 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
เมื่อตันสัปดาห์นี้ กรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากถึง 844 ทำสถิติติดเชื้อมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
ศูนย์ CDC รายงานว่าขณะนี้ศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอยู่ที่รัฐนิวยอร์ค และรัฐนิวเจอซี่ สาเหตุจาก จำนวนผู้ติดสายพันธุ์โอไมครอนมีสูงถึง 13.1% ของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายวันในทั้ง 2 รัฐดังกล่าว ชาวอเมริกันในรัฐนิวยอร์กพากันไปตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามศูนย์ตรวจเชื้อเป็นจำนวนมาก หลายแห่งคิวรอตรวจเป็นแถวยาวมาก โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ในรัฐนิวยอร์กเพิ่มถึง 83,000 ราย มากสุดนับแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นมา หลายคนที่มารอตรวจโควิด ต่างพากันบ่นว่า งานเลี้ยงต้อนรับวันคริสต์มาสที่วางแผนไว้คงต้องยกเลิกเหมือนปีที่แล้ว เพราะโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ายังคงระบาดต่อเนื่อง แถมมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาซ้ำอีก
ขณะที่ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ในนิวยอร์กตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนมากถึง 115 ราย
ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้น 8% และติดเชื้อเพิ่มวันละเกือบ 120,000 คน จึงขอเตือนประชาชนชาวอเมริกันที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน อาจพบกับอาการป่วยหนักอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้
