โควิด-19 กลับมาระบาดหนักในเอเชียและอาเซียน อินเดียถึงฟิลิปปินส์ติดสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์อ่วม

473
0
Share:
สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในเอเชีย และอาเซียนกลับมาตกอยู่ในสภาวะอันตรายครั้งใหม่ เนื่องจากอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่เพียงทะยานพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ แต่ยังทำสถิติดังกล่าวติดต่อกันหลายวันอีกด้วย
.
กระทรวงสาธารณสุข อินเดีย เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันนี้ 20 มีนาคม 2564 พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 40,950 ราย ทำสถิติติดสูงสุดรายวันครั้งใหม่ในรอบ 3 เดือนกว่า นอกจากนี้ ยังทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือนกว่าติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ด้วย โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคมอินเดียรายงานผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งถึง 39,643 ราย ผลพวงจากตัวเลขในวันนี้ ส่งผลตัวเลขสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 11,554,895 ราย เป็นอันดับที่ 3 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชีย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันมีจำนวน 380 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวมเป็น 159,594 ราย เป็นอันดับที่ 4 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย
.
สำหรับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่กลับมาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในอินเดียนั้น พบว่า ในช่วงระยะเวลา 111 วันผ่านมา ประชาชนชาวอินเดียติดโรคระบาดโควิด-19 รายวันมากกว่า 40,000 ราย โดยมี 17 รัฐ และ 1 เขตปกครอง ที่ทำสถิติติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้เป็นต้นมา โดยเฉพาะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พบว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งมากกว่า 19,000 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดนับตตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2563 ซึ่งในวันดังกล่าวเป็นวันที่มีสถิติการติดโรคระบาดโควิด-19 เป็นประวัติการณ์มากกว่า 90,000 ราย
.
ด้านกระทรวงสาธารณสุข ฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันนี้ 20 มีนาคม 2564 เมื่อเวลา 7.00 น. พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 7,103 ราย ทำสถิติติดสูงสุดรายวันครั้งประวัติศาสตร์นับตั้งแต่เปิดการระบาดในประเทศฟิลิปปินส์เป็นต้นมา ส่งผลตัวเลขสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 648,066 ราย เป็นอันดับที่ 30 ของโลก และเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันมีจำนวน 13 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวมเป็น 12,900 ราย เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน
.
สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่กลับมาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในฟิลิปปินส์นั้น พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทะยานขึ้นมากกว่า 2 เท่า จากประมาณ 13,000 รายในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ขึ้นมาเป็น 25,000 ราย นอกจากนี้ ภาวะผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆในกรุงมะนิลา โดยเฉพาะในห้องไอซียูกลายเป็นวิกฤต พบว่า 3 ใน 5 หรือ 60% ของเตียงไอซียูกลายเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ขั้นรุนแรง โรงพยาบาลอย่างน้อย 50 แห่งในกรุงมะนิลา พบว่า อัตราการใช้ห้องไอซียูสูงถึงระดับวิกฤต
.
รัฐบาลประเทศฟิลิปปินส์ต้องประกาศใช้มาตรการปิดล็อกดาวน์ครั้งใหม่ในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากได้ผ่อนคลายมาตรการลงไปก่อนหน้านี้ มาตรการปิดล็อกครั้งใหม่ ส่งผลให้โรงภาพยนตร์ สถานที่บริการเครื่องเล่นเกม พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดประชาชน และโรงเรียน ต้องปิดตัวลง จำกัดการให้บริการทางธุรกิจ และสถานที่สำคัญทางศาสนาให้เหลือเพียง 30% จากเดิมที่ 50% สั่งลดจำนวนพนักงานที่ทำงานในสำนักงานของภาคเอกชนให้เหลือเพียง 30% ส่วนที่เหลือให้ทำงานจากที่บ้าน
.
ทั้งนี้ ประเทศฟิลิปปินส์เผชิญกับสถานการณ์การระบาดที่เลวร้ายมากขึ้น เมื่อกระทรวงสาธารณสุข ตรวจพบว่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์เป็นรุ่นที่ 3 ด้วยรหัสพันธุกรรม P.3 ซึ่งมีลักษณะ คือ เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่คล้ายกับที่พบในญี่ปุ่นด้วยรหัสพันธุกรรม B.1.1.248 และคล้ายคลึงกับเชื้อกลายพันธุ์ที่พบในบราซิลด้วยรหัสพันธุกรรม P.1 เชื้อกลายพันธุ์รุ่นที่ 3 นี้ มีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็วมากขึ้นกว่าทุกสายพันธุ์ที่พบมา และเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา องค์การอาหารและยา ประเทศฟิลิปปินส์ ประกาศอนุมัติการใ้ช้งานฉุกเฉินของวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของสปุตนิก วี ซึ่งผลิตจากรัสเซีย