โควิด-19 กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ต่อต้านวัคซีนไฟเซอร์

ไฟเซอร์ อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จากสหรัฐอเมริกา ร่วมกับไบออนเทคจากเยอรมนี เปิดเผยว่า ผลจากห้องทดลองในการศึกษาโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งมีรหัสพันธุกรรม B.1.351 ตรวจพบเชื้อกลายพันธุ์ดังกล่าวอาจลดสารแอนตี้บอดี้ในร่างกายของผู้ป่วยลงถึง 2 ใน 3 หรือกว่า 66% จากวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค นั่นหมายถึงอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่กระจายติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดังกล่าวลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษายังพบว่า ในภาพรวมนั้น วัคซีนสามารถควบคุมการติดเชื้อได้ และยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า ผลการทดลองฉีดวัคซีนไฟเซอร์กับอาสาสมัครที่มีเชื้อไวรัสกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ อาจทำให้ลดประสิทธิภาพในการปกป้องการติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว
.
สำหรับโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ในประเทศไทยนั้น มีการตรวจพบผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์แอฟริกาใต้รวมทั้งสิ้น 3 ราย โดยรายที่ 1 เป็นรายแรกในประเทศไทยนั้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ตรวจพบผู้ป่วยชายไทย อายุ 41 ปี มีอาชีพรับซื้อพลอย และไปอาศัยอยู่ในประเทศแทนซาเนียเป็นเวลา 2 เดือน จากการรวจสอบ พบว่าประเทศแทนซาเนียในทวีปแอฟริกา ไม่มีผู้ติดเชื้อ ทำให้ประชาชนที่ประเทศแทนซาเนียไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัย เมื่อถึงวันที่ 29 มกราคม 2564 ผู้ป่วยชายไทยคนดังกล่าวเดินทางกลับประเทศไทยด้วยการบินมาต่อเครื่องจากประเทศเอธิโอเปียเพื่อมาถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และได้เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ต่อมาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เก็บตัวอย่างเชื้อครั้งที่ 1 ให้ผลบวก จึงเข้าสู่การรักษาที่โรงพยาบาลทันที ถัดจากนั้นอีก 2 วัน ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ตรวจพบอีก 2 ราย ซึ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ
.
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข แอฟริกาใต้ เปิดเผยว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เพิ่มขึ้น 2,320 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมขึ้นเป็น 1,496,439 ราย อยู่อันดับที่ 16 ของโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 165 ราย ส่งตัวเลขสะสมเป็น 48,478 ราย