โควิด-19 ทำเพชรล้นตลาด 5 รายใหญ่แบกสต็อกอ่วม

800
0
Share:

โควิด 19 ทำเพชรล้นตลาด 5 รายใหญ่อุตสาหกรรมเพชรต้องแบกสต็อกมูลค่าถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ทั่วโลกทยอยใช้มาตรการล็อกดาวน์ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมเพชรเกิดภาวะล้นตลาด
.
ล่าสุดในเดือนมิถุนายน De Beers บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเพชร แทบไม่สามารถขายเพชรได้เลย และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มียอดขายเพียง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับเดือนเดียวกันของ ปีก่อนมียอดขายถึง 416 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ของบริษัทที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 130 ปี อย่าง De Beers
.
ขณะที่ Gemdax บริษัทชั้นนำด้านที่ปรึกษาและวิเคราะห์อุตสาหกรรมเพชร รายงานว่า ผู้ผลิตเพชรรายใหญ่ 5 อันดับแรก มีเพชรก้อนคงเหลือรวมกันคิดเป็นมูลค่าราว 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิ้นปี 2563 อาจมีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นมูลค่าถึง 1 ใน 3 ของเพชรก้อนที่ผลิตได้ต่อปี
.
ที่สำคัญแหล่งผลิตเพชรที่สำคัญของโลกอย่างเช่น เลโซโท แองโกลา แอฟริกาใต้ ต่างลดกำลังการผลิตอย่างมาก นับตั้งแต่ก่อนช่วงโควิด-19 จากภาวะเพชรล้นตลาดจากปีก่อน มีการคาดการณ์จาก Mr. Zimnisky นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเพชรว่า ปี 2563 ปริมาณกำลังผลิตเพชรทั่วโลกจะลดลงต่ำกว่า 110 ล้านกะรัต จากกำลังการผลิตมากกว่า 140 ล้านกะรัต เมื่อปีก่อน ซึ่งถือเป็น ปริมาณเพชร ที่ผลิตได้ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายยุค 90 เป็นต้นมา
.
แต่ทั้งนี้ De Beers และ ALROSA สองบริษัทผู้นำตลาดต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ควรรักษาเพชรค้างสต็อกไว้มากกว่าระบายออกด้วยการแข่งกันลดราคา เห็นได้จากเดือนมีนาคมและเมษายนราคาเพชรร่วงลงถึง 40% แต่ราคาก็ดีดกลับขึ้นมาได้ในเดือนพฤษภาคมเกือบทั้งหมด