โควิด-19 พันธ์ุโอไมครอนเข้าไทยแน่นอน มาตรการปัจจุบันทำได้แค่ชะลอให้มาช้า
วันนี้ 3 ธันวาคม 2564 นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงไวรัสโอไมครอนว่า การเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัสโคโรนา ทั้งรูปร่าง หน้าตา ลักษณะที่เกิดขึ้นได้ในไวรัสทั่วไป ก็เหมือนกันการเปลี่ยนแปลงของไวรัสในกลุ่มไข้หวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ แต่สิ่งที่ทุกคนกังวล คือการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเท่าที่ทราบข้อมูลจากการรายงานในต่างประเทศ ถึงวันที่ 2 ธ.ค. โอไมครอนมีการเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเดลตาแน่นอน แต่ต้องดูว่าก่อความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน เบื้องต้นอาการน้อยกว่า โดยคาดว่าการตรวจเจอเชื้อโอไมครอนนี้ พบมาแล้วประมาณ 1-2 เดือน แต่จังหวะการระบาดของโรคที่เริ่มพบมากขึ้น และเริ่มพบในต่างประเทศนั้นไม่นาน ส่วนของไทยก็ต้องทำใจว่าไม่สามารถกันโรคนี้ได้
นพ.ทวี กล่าวต่อไปว่า มาตรการที่ไทยใช้อยู่ตอนนี้เป็นเพียงการชะลอโรค ทั้งการห้ามคนจากแอฟริกาเดินทางเข้าไทย การรับมือมาตรการอื่นๆ ยังทำเหมือนเดิม จากข้อมูลพบว่า วัคซีนยังเอาอยู่ จะเห็นว่าพัฒนาการของเชื้อไวรัส ทั้งที่ผ่านมาอู่ฮั่น เปลี่ยนมาเป็น อัลฟา วัคซีนยังเอาอยู่ จนมาเดลตาวัคซีนก็ยังพอช่วยได้ ทำให้อัตราการป่วย ติดเชื้อเบาลง ดังนั้นประเทศไทย ต้องเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มคนที่เหลืออีก 10 ล้านคน เพื่อให้สถานการณ์หรือความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้นเบาลง เพราะแม้ว่าเชื้อ หรืออาการไม่ได้รุนแรงกว่าเดิม แต่หากคนไม่ฉีดวัคซีนอาการจะรุนแรง ส่วนเรื่องของการใช้ยารับมือโอไมครอน ก็ยังใช้ได้อยู่เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ดังนั้นระหว่างมีการชะลอความรุนแรงด้วยมาตรการต่างๆ ต้องเร่งฉีดวัคซีน คนไหนยังไม่ฉีดต้องรับวัคซีนเพื่อป้องกัน เพราะขณะนี้ยังต้องรอข้อมูลที่ชัดเจน ว่า ทิศทางของการกลายพันธุ์ของไวรัสนี้จะเป็นเช่นไร หากติดเชื้อเร็ว รุนแรงน้อยลง ในอนาคตก็ส่อเค้ากลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่หากไม่ก็ต้องระวัง แต่ที่ชัดเจนแล้วตอนนี้คือโอไมครอนแพร่เร็ว มาตรการ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือยังใช้ได้ แต่ต้องเพิ่มการฉีดวัคซีน
