โฆษก.ศบค.ย้ำไทยยังต้องเฝ้าระวังโควิด 19 อย่างเข้มข้น แม้ไทยตัวเลขติดเชื้อดีขึ้น

963
0
Share:

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โฆษก ศบค. รัฐบาลจะใช้เกณฑ์ในการพิจารณาว่าจะผ่อนปรนมาตรการเคอร์ฟิวหรือไม่ 3 หัวข้อหลักไล่เรียงลำดับความสำคัญได้แก่ สุขภาพ // เศรษฐกิจ และสังคม แต่เรื่องสุขภาพต้องมาเป็นอันดับ 1 แม้ตัวเลขการติดเชื้อในรอบวันจะเหลือเพียง 20 กว่าราย แต่การแพร่ระบาดยังมีอยู่ หากไทยการ์ดตกเมื่อใด ตัวเลขอาจกลับมาติดเชื้อเพิ่ม
.
หากต้องการให้เปิดห้าง ประชาชนจะมีการเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างใช้บริการได้หรือไม่ ถ้าห้างมีผู้ใช้บริการแน่นต้องออกมายืนนอกห้าง หรือหากมีจำนวนมากบางส่วนต้องกลับบ้านไปก่อน และทุกกิจกรรมต้องใส่หน้ากากอนามัย ทุกคนยอมรับกติกาได้หรือไม่
.
ดังนั้นจะเห็นว่าการผ่อนคลาย ต่าง ๆ ต้องมีความรอบคอบ เพราะหากดูตัวอย่างจากประเทศที่มีการปล่อยปละละเลยเช่น สิงค์โปร์และญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่ามีผู้ติดเชื้อ ดีดกลับมา และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้นการที่จำกัดพื้นที่ การเคลื่อนไหวก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เพื่อลดความเสี่ยง
.
อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังศึกษา เรื่องการผ่อนคลายและกลับมาสู่การใช้ชีวิตปกติ ทีมวิชาการชุดนี้กำลังทำงานอย่างเข้มข้น และดูแลอย่างเต็มที่ ดูในทุกมิติ ทั้งภาคเศรษฐกิจ นำเอกชนมานั่งพูดคุยกันว่าแต่ละมาตรการที่จะออกมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนี้ใกล้กรอบเวลาครบกำหนดการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คือวันที่ 30 เมษายน แต่หากถึงเวลาตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงแดงไปทั้งโลก ไทยก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง
.
แม้ไทยจะทำตัวเลขได้สองหลักแต่ข้างบ้านประเทศรอบ ๆ มีตัวเลขสามหลัก บ้านเราปลอดภัย แต่ข้างบ้านไม่ปลอดภัย ไทยก็ไม่สามารถปล่อยได้ ต้องเข้าใจในสถานการณ์ การผ่อนปรนในภาพใหญ่ คนในภาพเล็กต้องมีส่วนร่วมด้วย หากคนไทยร่วมกันมีวินัยทุกคน เดินหน้าไปอย่างพร้อมเพียง เชื้อโรคก็จะไม่มา
.
เมื่อถามว่าจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เลย จะสามารถยกเลิกประกาศที่เข้มงวด ได้หรือไม่นั้น ขณะนี้พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะยาวนานไปถึง 30 เมษายน แต่จะตีความว่าวันที่1 พฤษภาคม กลับมาเป็นปกติเลยคงไม่ใช่ เพราะนายกรัฐมนตรี บอกแล้วว่าจะต้องประเมินก่อน 1 สัปดาห์ ก่อนพ.ร.ก.ครบกำหนด ว่าจะต้องขยายหรือไม่ แต่สถานการณ์เห็นอยู่แล้วว่า ตัวเลขการติดเชื้อ เสียชีวิต ของเพื่อนบ้านยังคงสูงอยู่ หากแต่ละจังหวัดจะผ่อนปรนตัวเอง ก็ต้องเป็นเรื่องที่หารือกัน เชื่อว่านายกรัฐมนตรีน่าจะเป็นผู้พิจารณา ไทยต้องสู้กับโควิด-19 อีกพอสมควร และขณะนี้ในแต่ละประเทศยังไม่มีใครกล้าที่จะยกเลิกมาตรการที่เข้มข้น ดังนั้นการตัดสินใจขึ้นอยู่กับพื้นฐานชุดข้อมูลขอให้รอการประเมินก่อน