โรงหนัง-โบว์ลิ่งของเมเจอร์ รายได้ทรุดค้างจ่าย 116 ลบ.

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR และบริษัท เมเจอร์ โบว์ล กรุ้ป จำกัด หรือ MJLF ในฐานะผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของเมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ ได้ทำจดหมายเสนอต่อบริษัทจัดการกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญ คือเนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศมาตรการป้องกันเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคระบาดโควิด-19 โดยมีคำสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งรวมถึงโรงภาพยนตร์และโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ โดยประกาศให้ปิดดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2563 จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563 ทำให้บริษัทไม่สามารถประกอบธุรกิจได้และไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
.
ถึงแม้ว่าภายหลังรัฐบาลได้อนุญาตให้เปิดดำเนินการแล้วก็ตาม รัฐบาลยังคงกำหนดมาตรการป้องกันสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการในแต่ละโรงภาพยนตร์ โดยให้บริการลูกค้าได้ไม่เกิน 25% ของจำนวนที่นั่งในโรงภาพยนตร์ ประกอบกับการเลื่อนกำหนดฉายภาพยนตร์ของค่ายหนังต่าง ๆ ออกไปอย่างไม่มีเวลากำหนดที่แน่นอน ส่งผลให้บริษัทรายได้ลดลงอย่างมาก
.
แม้บริษัทฯ จะบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลงแล้วก็ตาม รายได้ของบริษัทก็ยังไม่คลอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุข้างต้น บริษัทจึงทำหนังสือขออนุเคราะห์ให้ทางบริษัทจัดการ งดเว้น และ ลดอัตราค่าเช่า ค่าบริการ และค่าไอเย็นเช่นเดียวกับที่บริษัทได้รับการอนุเคราะห์จากผู้ให้เช่ารายอื่นๆ
.
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีค่าเช่า ค่าบริการ และค่าไอเย็นค้างชำระ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 116,099,656.68 บาท ซึ่งได้บันทึกอยู่ในงบการเงินเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน จึงถือว่าบริษัทฯ ยังมิได้ผิดนัดชำระแต่อย่างใด
.