โรงแรม 3 ดาวยังฟื้นไม่ทั่วถึง จากผลกระทบทัวร์จีนยังไม่กลับมา คาดโลว์ซีซั่นยังซึมต่อ

85
0
Share:
โรงแรม 3 ดาวยังฟื้นไม่ทั่วถึง จากผลกระทบทัวร์จีนยังไม่กลับมา คาดโลว์ซีซั่นยังซึมต่อ

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันฟื้นตัวได้ดีมาก โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ที่ฟื้นตัวได้เกือบเท่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 และมีบางโรงแรมที่ดีกว่าก่อนโควิดแล้วด้วย อาทิ ภูเก็ต ที่สามารถขยับราคาขึ้นได้ เพราะยังมีความต้องการ (ดีมานด์) อยู่สูงมาก แต่ในกลุ่มโรงแรมระดับ 3 ดาวลงมา ถือว่ายังฟื้นตัวได้น้อย โดยเฉพาะโรงแรมที่มีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทัวร์จีน ซึ่งปัจจุบันยังไม่กลับมา ชาวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทยขณะนี้เป็นกลุ่มมาเที่ยวเอง (เอฟไอที) มากขึ้น จองตั๋ว โรงแรม เข้ามาเที่ยวเอง ซื้อทัวร์จะน้อยลง ซึ่งจากนี้ผู้ประกอบการทัวร์จะต้องปรับเปลี่ยนให้ทันตามตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

อยากให้รัฐบาลเน้นการตั้งเป้าหมายในด้านรายได้หรือมูลค่ามากกว่าจำนวน เพราะเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2567 อยู่ที่ 40 ล้านคน รายได้ 3.5 ล้านล้านบาท ต้องมีการวางแผนการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวด้วย ว่าเข้ามาแล้วจะไปที่ใดต่อ อาทิ ภูเก็ต ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก แต่ได้รับความนิยมจากต่างชาติสูงมากนั้น จะทำอย่างไรให้ไม่เกินขีดความสามารถที่รับไหว ตอนนี้ต้องมาคุยกันเรื่องคาพาซิตี้ หรือขีดความสามารถในการรองรับ เพราะหากปล่อยให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้าไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวแบบไม่จำกัดคน จะเกิดผลกระทบต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวเอง รวมถึงน่ากังวลในเรื่องความปลอดภัยด้วย

นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า ทิศทางท่องเที่ยวไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะถึงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ภาคการท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงตามปัจจัยฤดูกาลอยู่แล้ว โดยเชื่อว่าภาพคงเป็นการลดลงเทียบเท่าปี 2566 ไม่ได้น่ากังวลมากไปกว่าเดิม แม้มีสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล แต่ก็ยังเห็นยอดยกเลิกจองไม่เยอะท่องเที่ยวไม่เยอะ คนที่ต้องการเดินทางอย่างไรก็เข้ามาเที่ยวไทยอยู่ดี อาจมีผลกระทบในเรื่องเที่ยวบินที่ต้องบินอ้อม ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินอาจปรับขึ้นตามต้นทุนบ้าง ในส่วนไทยเที่ยวไทยก็ชะลอตัวลงด้วย เพราะมีผลกระทบในหลายปัจจัย ทั้งอากาศร้อน หนี้ครัวเรือนสูง พอคนมีหนี้เยอะ แต่รายได้ไม่สอดคล้องกับการใช้หนี้ ก็ไม่ออกเที่ยว แม้ไม่ได้เป็นปัจจัยกระทบหลัก แต่ก็เป็นปัจจัยมีผลต่อการตัดสินใจในอันดับต้นๆ

“ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) หรือกรีนซีซั่นที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พยายามประชาสัมพันธ์อยู่นั้น ต้องบอกว่ามีต่างชาติที่นิยมเข้ามาเที่ยวไทยช่วงนี้อยู่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง แต่หากเทียบกับภาพต่างชาติรวม ถือว่ายังเป็นส่วนที่ไม่มากนัก ซึ่งก็ช่วยได้บ้าง แต่มองว่ารัฐบาลควรมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศออกมาเพิ่มเติมให้เกิดความต่อเนื่อง” นายเทียนประสิทธิ์ กล่าว

หลังจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีหัวเรือใหม่เป็น นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ภาคเอกชนภายใต้การทำงานของสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟตต้า) รวบรวมข้อเสนอยื่นถึงรัฐมนตรีใหม่ โดยมีหัวข้อใหญ่คือ การวางตำแหน่งงานในภาคการท่องเที่ยว ขอพื้นที่ให้ภาคเอกชนใน 7 สมาคมท่องเที่ยวรายใหญ่ของไทย จากส่วนกลาง อาทิ สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เข้าไปทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างถูกจุด รวมถึงข้อเสนอแนะอื่นด้วย