โล่งอก! อิตาเลียนไทย ยอมจ่ายค่าแรงลูกจ้างแล้ว รวมกว่า 6,600 คน คิดเป็นเงินกว่า  30 ล้านบาท

213
0
Share:

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าในการช่วยเหลือลูกจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกค้างจ่ายค่าจ้าง ว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานตรวจแรงงาน ได้เชิญผู้แทนบริษัท มาพบที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 เพื่อให้ข้อเท็จจริงและหารือร่วมกันถึงปัญหาการค้างจ่ายค่าจ้าง ตนได้มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมหารือด้วย

ทั้งนี้จากการพูดคุยกับผู้แทนบริษัทให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทฯมีลูกจ้างทั้งหมด 20,188 คน และมีโครงการก่อสร้างกระจายอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศไทย รวม 115 โครงการ กรณีปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทยอมรับว่าเกิดจากการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหาโดยการขอสินเชื่อหรือขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนภายในบริษัท โดยในปัจจุบันมีสถาบันทางการเงินเข้ามาสนับสนุนโครงการของบริษัทแล้ว จำนวน 79 โครงการ ทำให้สามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติ สำหรับ 36 โครงการ ที่เหลือรวมถึงสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท อยู่ระหว่างติดต่อประสานกับสถาบันการเงินเข้ามาสนับสนุน ซึ่งผู้แทนบริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติประมาณเดือนเมษายน 2567

โดยจากการที่ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบไซต์ก่อสร้างในเครือบริษัทอิตาเลียนไทย พบว่า ในหลายโครงการหลายจังหวัดเริ่มทยอยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย โดยลูกจ้างได้รับค่าจ้างตามปกติแล้ว เป็นลูกจ้างที่มีทั้งสัญชาติไทยและแรงงานข้ามชาติ จำนวน 6,626 คน ได้แก่ ลูกจ้างในจังหวัดระยอง ปทุมธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา และเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 และพื้นที่ 3 เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

ด้าน นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างบริษัทอิตาเลียนไทย รวมไปถึงลูกจ้างรับเหมาช่วงอย่างเต็มที่ตามอำนาจหน้าที่ โดยในหลายพื้นที่ได้มีการรับคำร้อง คร.7 และออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้าง อย่างไรก็ตาม ตนได้เน้นย้ำกับพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่ที่ลูกจ้างยังไม่ได้รับค่าจ้างค้างจ่ายให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งรัดให้นายจ้างเร่งดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่ได้ตกลงไว้กับลูกจ้าง