โวโตแน่! นายกฯ จีน ลั่นเศรษฐกิจจีนปีนี้โตเข้าเป้า 5% กลางเวทีสภาเศรษฐกิจโลก

190
0
Share:
โวโตแน่! นายกฯ จีน ลั่น เศรษฐกิจจีน ปีนี้โตเข้าเป้า 5% กลางเวที สภาเศรษฐกิจโลก

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง กล่าวเปิดการประชุมประจำปีนิวแชมเปียนครั้งที่ 14 ของเวทีเศรษฐกิจโลก หรือเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม หรือที่เรียกว่าการประชุมดาวอสฤดูร้อน ที่นครเทียนจินในวันนี้ว่า จีนคาดหวังว่าปี 2566 ทั้งปี จีนจะบรรลุเป้าหมายเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 5 ตามที่กำหนดไว้เมื่อเดือนมีนาคม และเมื่อไม่นานมานี้ องค์กรและสถาบันสากลบางแห่งได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ แสดงถึงความมั่นใจในแนวโน้มการพัฒนาของจีน

อย่างไรก็ตาม การแถลงดังกล่าวกลับตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่ว่าในสัปดาห์ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ และบริษัทจัดอันดับการลงทุนชั้นนำระดับโลกล้วนประกาศลดเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ลงจากเดิมทั้งสิ้น ได้แก่ เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ประกาศปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีจีนแผ่นดินใหญ่ในปีนี้ลงจากเดิมระดับ 5.5% เหลือ 5.2% หรือลดลง -0.3%

ธนาคารโนมูระ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศลดเป้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ลงจากเดิมที่ระดับ 5.5% เหลือเพียง 5.1% หรือลดเป้าหมายลง -0.4% ในเวลาเดียวกัน ธนาคารยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ลดเป้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ลงจากเดิมที่ระดับ 5.7% เหลือเพียง 5.2% หรือลดเป้าหมายลง -0.5%

ด้านธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากสหราชอาณาจักร ลดเป้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ลงจากเดิมที่ระดับ 5.8% เหลือเพียง 5.4% หรือขดเป้าหมายลง -0.4% สอดคล้องกับธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศลดเป้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ลงจากเดิมที่ระดับ 6.3% เหลือเพียง 5.7% หรือลดเป้าหมายลง -0.6%

นอกจากนี้ ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลก และมีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประกาศลดเป้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ลงจากเดิมที่ระดับ 5.5%-6.3% เหลือเพียง 5.1-5.7% % หรือลดเป้าหมายลง 0.4%-0.6%

สาเหตุจากถึงแม้ว่าจะมีมุมมองว่าเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่จะฟื้นตัวได้ก็ตาม แต่กลับเป็นภาวะการฟื้นตัวที่ไม่แน่นอน ด้วยการลงทุนภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวมาก

นายกรัฐมนตรีหลี่ยังแสดงความมั่นใจดังกล่าว ทั้งที่ยอมรับเมื่อครั้งที่รัฐบาลกำหนดเป้าหมายในเดือนมีนาคม ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดเป้าหมายหนึ่งในรอบหลายทศวรรษว่า เป็นภารกิจที่ไม่ง่าย

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังผ่านพ้นโควิด-19 กำลังชะลอตัวลง ดัชนีหลายตัวในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ส่งสัญญาณว่ากระแสการฟื้นตัวเริ่มตก และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสำคัญ 2 อัตรา หวังต้านทานกระแสชะลอตัว

นายกรัฐมนตรีหลี่ ยังได้กล่าวในการประชุมดังกล่าวที่จะมีขึ้นไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายนว่า ความพยายามของโลกตะวันตกที่จะลดการพึ่งพาและลดความเสี่ยงให้แก่เศรษฐกิจโลกเป็น 2 แนวคิดที่ผิด เพราะพัฒนาการของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจคือการที่เศรษฐกิจโลกกลายเป็นหนึ่งเดียวที่เศรษฐกิจของหลายประเทศผสมผสานกัน พึ่งพากัน และพัฒนาไปด้วยกัน