ไทยตั้งเป้าปีเสือผลิตรถยนต์ 1.8 ล้านคัน ขยายตัวกว่า 6% ท่ามกลางชิปขาดแคลนต่อเนื่อง

361
0
Share:
รถยนต์

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เป้าหมายในปี 2565 นี้ เรายังต้องติดตามสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ๆ ตลอดจนการขาดแคลนชิป ซึ่งตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีการก่อสร้างโรงงานโรงงานผลิตชิ้นส่วน โดยต้องใช้เวลา 2 ปีในการก่อสร้าง เพราะฉะนั้น กว่าที่ปัญหาการขาดแคลนชิปจะดีขึ้นน่าจะเกิดขึ้นในปี 67 มากกว่าไตรมาส 2/66 ที่หลายฝ่ายคาดไว้ ตลอดจนกำลังซื้อประชาชนยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา 4-5 เดือนในการประเมินสถานการณ์ เพราะจะกระทบต่อเป้าผลิตรถยนต์ได้

สำหรับในปี 2565 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กำหนดวางเป้ายอดผลิตรถยนต์รวม 1,800,000 คัน มากกว่าปี 64 ซึ่งมีจำนวน 1,685,705 คัน หรือเพิ่มขึ้น 6.78% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,000,000 คัน และ ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 800,000 คัน

ส่วนการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี 65 วางเป้า 2,000,000 คัน มากกว่าปี 64 ซึ่งมีจำนวน 1,780,654 คัน หรือเพิ่มขึ้น 12.31% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 350,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 19.94% และ ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1,650,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.81%

แม้ปีนี้จะวางเป้าเพิ่มเป้าหมายการผลิต ยังกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย และต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้ายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ประกอบกับ ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน และ เซมิคอนดั๊กเตอร์บางชิ้น ทำให้ต้องชะลอการผลิตบางรุ่นลงชั่วคราวในผู้ผลิตบางแห่ง

ทั้งนี้ ในการผลิตรถยนต์เมื่อปี 2564 ที่ผ่านไปนั้น มีจำนวน 1,685,705 คัน แบ่งเป็นการขายในประเทศ จำนวน 759,119 คัน ต่ำกว่าปีก่อนหน้า 4.2% และผลิตเพื่อส่งออก 959,194 คัน มากกว่าปีก่อนหน้า 30.35% มีปัจจัยลบ จากการระบาดของโควิด 19 หลายระลอก ทำให้รัฐบาลล็อกดาวน์เมื่อกลางเดือนก.ค. ถึงวันที่ 31 ส.ค. 64 ทำให้ลูกค้าถอนมัดจำ และ ชะลอการรับรถในช่วงนั้น และ การขาดแคลนเซมิคอนดั๊กเตอร์ทำให้ต้องชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่นเป็น
ระยะ ๆ