ไทยติดโผ! สิงคโปร์กำลังถูกเมินตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาคของบริษัทชั้นนำจากยุโรปและญี่ปุ่น
บริษัทชั้นนำระดับภูมิภาคและระดับโลกกำลังโยกย้ายสำนักงานระดับภูมิภาคออกจากประเทศสิงคโปร์กันมากขึ้น เพื่อย้ายมาตั้งในประเทศหลายแห่งในภูมิภาคอาเซียน และเอเชียใต้ สาเหตุจากบริษัทชั้นนำข้ามชาติในญี่ปุ่น และในยุโรป ตัดลดค่าใช้จ่าย และมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจในทั้งสองภูมิภาคดังกล่าว ที่สำคัญต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในประเทศสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นมาก
สำหรับประเทศสิงคโปร์แล้ว บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นมักจะตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์มาเป็นเวลานาน ทำให้ สิงคโปร์ยังคงรักษาประเทศผู้นำในการเป็นจุดหมายปลายทางตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในอาเซียน แต่ขณะนี้เกิดแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจเอกชนของญี่ปุ่น เช่น ซากาต้า อิงซ์ ผู้ผลิตหมึกพิมพ์สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ได้ตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคที่ประเทศมาเลเซียแทนที่จะเลือกสิงคโปร์ เนื่องจากแรงจูงใจและสิทธิประโยชน์ทางภาษีของรัฐบาลมาเลเซียเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจตั้งสำนักงานระดับภูมิภาคในมาเลเซีย บริษัทดังกล่าวจะกำกับดูแลธุรกิจและตลาดในเอเชียใต้ และอาเซียน ได้แก่ อินเดีย ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยจะเริ่มดำเนินการในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
รัฐบาลมาเลเซียเสนอนโยบายการคลังปี 2024 ด้วยการนำเสนอแรงจูงใจทางมาตรการภาษีสำหรับบริษัทต่างชาติที่ย้ายสำนักงานมาตั้งในประเทศมาเลเซีย หลังจากประกาศนโยบายมาเลเซียเป็นศูนย์กลางภาคการบริการของโลก หนึ่งในมาตรการภาษี เช่น อัตราภาษีเงินได้ระหว่าง 5-10%
ขณะที่ประเทศไทย ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งชั้นนำอีกแห่งในการดึงดูดบริษัทต่างประเทศชั้นนำ ประเทศไทยมักจะถูกนำมาพิจารณาในมุมมองของบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศในด้านแผนงานสำหรับการขยายการผลิต และการขาย ก่อนหน้านี้ใน 4 ปีผ่านทา นิชชิน ฟู้ดส์ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหาร ได้ย้ายสำนักใหญ่ระดับภูมิภาคอาเซียนจากสิงค์โปร์มายังไทยในปี 2020
ท่ามกลางบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์นั้น พบว่า 31% ได้โยกย้ายการทำงานบางส่วน เช่น สายงานการขาย สายงานการวางแผนธุรกิจและองค์กร ไปยังประเทศอื่น หรือกำลังพิจารณาตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นสูงมากจากการสำรวจเดิมที่ระดับ 7.4% ในปีงบประมาณ 2019 ที่สำคัญ ประเทศไทยได้รับการมองว่าเป็นประเทศยอดนิยมที่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นพิจารณาจะย้ายการปฏิบัติงานบางส่วนมายังประเทศไทยมากที่สุด โดยมี 19 บริษัทที่มองประเทศไทย ตามด้วยอันดับ 2 มี 5 บริษัทที่มองมายังประเทศมาเลเซีย
รองผู้อำนวยการ สำนักงานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือเจโทร (JETRO) สิงค์โปร์ นายเคสุเกะ อาซากุระ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์รวมของฐานการผลิต และมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องที่สามารถรองรับการโยกย้ายสายงานบางอย่าง เช่น งานขาย ออกจากประเทศสิงคโปร์ ดังนั้น ประเทศไทยจึงเหมาะสมในการโยกย้ายสายงานบางส่วนมากกว่าที่จะย้ายมาเต็มรูปแบบ
ด้านหอการค้ายุโรปในประเทศสิงคโปร์ได้ทำผลสำรวจเมื่อปี 2023 ปรากฏว่า 69% มีความเต็มใจที่จะโยกย้ายสายงานบุคคลออกจาก สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคจากประเทศสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ประเทศสิงคโปร์ยังมีจุดแข่งขันที่ได้เปรียบมากทั้งในแง่ แรงงานหรือพนักงานมีความเชี่ยวชาญในด้านการใช้ภาษา และบริการภาคการเงินสูงมาก แม้จะมีแนวโน้มเกิดขึ้นดังกล่าวก็ตาม แต่สิงค์โปร์ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่สุดในการตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของบริษัทต่างชาติ
