ไทยตื่นทอง! สวิสเซอร์แลนด์ส่งออกทองคำมาไทยสูงสุดใน 9 ปี มากอันดับ 3 ในเอเชีย

294
0
Share:
ไทยตื่นทอง! สวิสเซอร์แลนด์ ส่งออกทองคำ มา ไทย สูงสุดใน 9 ปี มากอันดับ 3 ในเอเชีย

กรมศุลกากร ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่าในปี 2022 ผ่านไปนั้น สามารถส่งออกทองคำแท่งไปยังประเทศในเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง และอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ไทย เป็นต้น โดยทำสถิติสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษผ่านมา

สวิสเซอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางทองคำบริสุทธิ์และนำเข้าและส่งออกทองคำใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดเผยข้อมูลการส่งออกทองคำไปต่างประเทศในปี 2022 พบว่า ส่งออกไปยังอันดับ 1 ได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง ด้วยปริมาณมากถึง 524 ตัน ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2018 โดยทำมูลค่าสูงถึง 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.09 ล้านล้านบาท ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 354 ตันเมื่อเทียบกับปี 2021 หรือเพิ่มสูงขึ้นถึง 208%

อันดับ 2 ได้แก่ อินเดียมีปริมาณ 224 ตัน แต่กลับลดลงจากปี 2021 มากถึง 507 ตัน โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมปี 2022 มีปริมาณส่งออกทองคำจากสวิสเซอร์แลนด์ลดต่ำลงมาก ซึ่งเป็นผลกระทบจากราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วและอยู่ในระดับสูงเหนือ 1,930 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

สวิสเซอร์แลนด์ส่งออกทองคำมายังประเทศตุรกีด้วยปริมาณถึง 188 ตัน ติดอันดับที่ 3 อย่างไรก็ตาม กลับเพิ่มขึ้นเพียง 11 ตันเมื่อเทียบจากในปี 2021

อันดับ 4 สวิสเซอร์แลนด์ส่งออกทองคำมาประเทศไทยถึง 92 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 56 ตัน หรือเพิ่มสูงถึง 155% เมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ส่งออกมาเพียง 36 ตัน ส่งผลให้ไทยนำเข้าทองคำจากสวิสเซอร์แลนด์สูงสุดในรอบ 9 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2013 นอกจากนี้ ยังทำสถิตินำเข้าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเอเชียโดยเป็นรองจากจีนแผ่นดินใหญ่และอินเดีย รวมถึงนำเข้าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ตามด้วยสิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์เป็นอันดับ 5 ที่สวิสเซอร์แลนด์ส่งออกทองคำในปีผ่านมา โดยมีปริมาณถึง 69 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 33 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 92% จากในปี 2021 ทำสถิตินำเข้าทองคำจากสวิสเซอร์แลนด์สูงสุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2017

ในขณะที่อันดับ 6 ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ส่งออกทองคำมามากที่สุด คือ ซาอุดีอาระเบีย ด้วยปริมาณ 47 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 7 ตันจากในปี 2021 และทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา

สาเหตุที่ทำให้ประเทศสวิสเซอร์แลนด์สามารถส่งออกทองคำมายังประเทศเหล่านี้ด้วยสถิติสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกในช่วงกลางปีผ่านมามีราคาต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่เกิดสงครามรัสเซียกับยูเครน ส่งผลให้เกิดความต้องการสั่งซื้อนำเข้าทองคำจากประเทศในแถบเอเชีย และตะวันออกกลาง ขณะที่ การเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญขนาดใหญ่ในอเมริกาเหนือและยุโรป ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในสต็อกออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลกดดันราคาทองคำตลาดโลกราวงต่ำลงด้วย

ปัจจัยดังกล่าวทำให้ตลาดทองคำในเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดจิวเวลรี่ขายปลีกมีความคึกคักอย่างมาก และนักลงทุนในเอเชียที่ต้องการสะสมทองคำแท่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาทองคำตลาดโลกลดต่ำลง นอกจากนี้ ความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจประเทศตุรกีที่เผชิญวิกฤตเงินเฟ้อพุ่งสูงอย่างมาก ทำให้ธนาคารกลางต้องเร่งสะสมทองคำเพื่อลดความเสี่ยงและแก้ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศ