ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 8 ราย รอยืนยันผลอีก 3 ราย

419
0
Share:
โควิด

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. – 10 ธ.ค. 64 ทั้งหมด 4,797 ราย พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลตา 4,777 ราย คิดเป็น 99.58% เป็นสายพันธุ์อัลฟา 8 ราย คิดเป็น 0.17% เป็นสายพันธุ์เบตา 1 ราย คิดเป็น 0.02% และเป็นสายพันธุ์โอไมครอน 11 ราย คิดเป็น 0.23% ซึ่งเป็นการตรวจจีโนมของไวรัสแบบครบทั้งตัว (Whole Genome Sequencing) แล้ว 8 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

โดยยังยืนยันว่าไทยยังไม่พบเชื้อไวรัสไฮบริดระหว่างเดลตาและโอไมครอน แต่ในส่วนของการกลายพันธุ์ ไม่มีใครที่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าเชื่อว่าวิธีตรวจเฝ้าระวังสายพันธุ์ของไทยมากพอที่จะตรวจหาเชื้อ ถึงแม้จะเกิดไฮบริดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสูตรสำเร็จจะต้องอันตราย หรือแพร่ระบาดเร็วขึ้นเสมอไป แต่บนความไม่ประมาทก็จะยังมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ภาพรวมแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนัก ผู้เสียชีวิต ลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงพบการระบาดในชุมชน สถานประกอบการ ตลาด แคมป์คนงาน และโรงเรียน อย่างไรก็ตาม พบสัดส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศรูปแบบ Test & Go มากขึ้น โดยเริ่มตรวจพบการติดเชื้อหลัง Day 0 ทำให้ต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจำนวนมาก

ดังนั้นให้โรงแรม SHA+ สแกน QR-Code ในแอปพลิเคชันหมอชนะจากผู้เดินทางทุกราย รวมทั้งเร่งจัดทำระบบติดตามผู้เดินทางแบบ Test & Go และแจ้งข้อมูลกับทีมสอบสวนโรค เพื่อลดเวลาการติดตามค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยให้แจ้งสถานพยาบาลคู่ปฏิบัติการ เร่งส่งตัวอย่าง เพื่อตรวจหาสายพันธุ์โอมิครอนทันทีที่พบผู้เดินทางที่ติดเชื้อทุกราย

ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดของโควิดในไทยถือว่าเป็นขาลง จำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับเกณฑ์ในการจัดให้โรคโควิด-19 เป็นเชื้อประจำถิ่นนั้น ขณะนี้นักวิชาการอยู่ระหว่างการ cut point ว่าระดับไหนที่จะให้การติดเชื้อโควิดเป็นเชื้อประจำถิ่น