ไม่ทันไร ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งเฉียด 340 จุด น้ำมันดิบโลกปิดสูงขึ้นเหนือ 78 ดอลลาร์

210
0
Share:
ไม่ทันไร ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดดิ่งเฉียด 340 จุด น้ำมันดิบโลกปิดสูงขึ้นเหนือ 78 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,930 จุด -339 จุด หรือ -1.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,808 จุด -44 จุด หรือ -1.16% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,305 จุด -153 จุด หรือ -1.47%

สาเหตุจากตัวเลขจ้างงานในภาคเอกชนสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลเพิ่มขึ้นกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนธันวาคมที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 220,000 คน

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 73.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.2% ทำสถิติราคารายวันตกต่ำมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน หรือนับตั้งแต่ธันวาคม 2565 ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 78.69 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.1% ทำสถิติราคารายวันร่วงมากที่สุดรอบกว่า 3 เดือน หรือตั้งแต่กันยายน 2565 ผ่านมา ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ทำสถิติดำดิ่งรุนแรงถึง -9.4% ใน 2 วันทำการติดต่อกันของการเริ่มซื้อขายเดือนมกราคม ซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 31 ปี หรือนับตั้งแต่มกราคมปี 1991 เป็นต้นมา

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกากลับลดลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยลดลงมากถึง 1.4 ล้านบาร์เรล จากที่คาดว่าจะลดลง 396,000 บาร์เรล

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,833.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -25.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ -1.4% ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากนักลงทุนกลับมากังวลแรงกดดันปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาครั้งใหม่หลังจากตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้มาก สอดคล้องกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าขึ้นมาก 0.9% รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น