ไม่พลาดชัวร์! แกะกล่องไอโฟน13-ไอแพดมินิใหม่-แอปเปิลวอทช์ซีรีย์ 7 เน้นแบตเตอรี่ใช้งานนานขึ้น กล้องคมเฉียบกว่าเดิม
แอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น เปิดตัวบนระบบออนไลน์กับไอโฟน 13 ประกอบด้วย รุ่นพื้นฐาน รุ่นมินิ รุ่น 13 โปร และรุ่น 13 โปรแมกซ์ เมื่อเปรียบเทียบกับไอโฟน 12 จะพบจุดเด่นที่สุด คือใช้ชิปตัวใหม่เอ 15 ไบโอนิค ที่ให้ความเร็วเพิ่มสูงขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับชิปของสมาร์ทโฟนคู่แข่ง เทคโนโลยีเอไอที่ล้ำขึ้นไปอีกในการประมวลภาพถ่าย และปรับปรุงระบบกล้องถ่ายภาพคมมากขึ้น สำหรับรุ่นไอโฟน13 และ13 มินิ ได้พัฒนาการถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อยมากๆ และในตอนกลางคืน และเลนส์มุมกว้างที่สร้างความน่าทึ่งได้อย่างน่าประทับใจจากรุ่นเดิม แบตเตอรี่มีการใช้งานได้มากขึ้นจากรุ่นเดิม ในรุ่นไอโฟน13 มินิ ใช้งานได้นานขึ้นอีก 1.5 ชั่วโมง และรุ่นพื้นฐานไอโฟน13 ใช้งานได้นานขึ้นอีก 2.5 ชั่วโมง
มาถึงรุ่นใหญ่ขึ้นมา ได้แก่ ไอโฟน13 โปร และ13 โปรแมกซ์ ได้เพิ่มคุณสมบัติกล้องใหม่ที่เรียกว่า มาโคร ทำให้ถ่ายภาพระยะใกล้มากๆได้ภาพคมชัดมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมใช้เทคโนโลยีเอไอในการปรับโทนของภาพที่ถ่ายทันที ส่วนการถ่ายภาพเคลื่อนไหว หรือวิดีโอในรุ่นโปรมาพร้อมระบบ ProRes คือรูปแบบการถ่ายวิดีโอที่คมชัดมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด เฉพาะ 2 รุ่นนี้ มีความใหม่เพิ่มขึ้นที่หน้าจอ คือให้ความสว่างขึ้นถึง 20% และระบบ ProMotion เพิ่มประสิทธิภาพของภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว และเกมที่คมชัดต่อเนื่อง แน่นอนว่า ไอโฟน13 ใช้เครือข่ายคลื่น 5G ที่สำคัญ มาพร้อมสีใหม่เรียกว่า Sierra Blue
ส่วนการออกแบบภายนอกของทุกรุ่นในไอโฟน13 แทบไม่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับไอโฟน12
มาถึงราคาขายของไอโฟน13 ตั้งราคาแตกต่างกันตามรุ่นชัดเจน เริ่มจาก ไอโฟน13 มินิ 699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23,067 บาท ไอโฟน13 พื้นฐาน 799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 26,367 บาท
ไอโฟน13 โปร ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32,967 บาท และไอโฟน13 โปรแม็กซ์ ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 36,267 บาท
แอปเปิล เริ่มเปิดให้จองวันที่ 17 กันยายน และรับสินค้าได้วันที่ 24 กันยายนนี้
เป็นที่รู้กันดีว่า เมื่อเดือนกันยายนปี 2563 ไอโฟน12 สร้างยอดขายทั่วโลกได้ถึง 137,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.55 ล้านล้านบาท นั่นคือรายได้จากไอโฟน12 เป็นครึ่งหนึ่งของรายได้รวมทั้งบริษัทแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น
