ไม่รู้อยู่ไหน! โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ถามหาคณะรัฐมนตรีอยู่ที่ไหน เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นใบไม้ร่วง

471
0
Share:

เฟสบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวานนี้ 31 กรกฎาคม 2564 มีข้อความ ดังนี้

วันเสาร์ที่ 31 ก.ค. วันที่ 112 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ และวันที่51 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต

ผู้ป่วยใหม่รายวัน และผู้เสียชีวิตจากโควิดทำสถิติใหม่ที่ 18,912 รายและ 178 คนตามลำดับ เราไม่เคยมาที่ตัวเลขระดับนี้มาก่อนเลย แต่ก็คงต้องเตรียมตกใจมากขึ้นกับตัวเลขใหม่วันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปอีกด้วยนะ

คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ริมถนน ในบ้าน หรือทุกๆที่โดยไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือ ทุกคนหวั่นเกรงการระบาดและกลัวติดเชื้อ ระบบสายด่วนขอความช่วยเหลือทุกเลขหมายทำอะไรให้ผู้ป่วยไม่ได้ เพราะเตียงในโรงพยาบาลก็ล้นเต็ม ER ทุกแห่งมีเตียงผู้ป่วยและถังออกซิเจนระเกะระกะล้นมาอยู่บนทางเท้าหรือที่จอดรถ อย่างนี้ไม่ใช่สถานการณ์สงครามหรอกหรือ เราประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาเกือบสองปีแล้ว สถานการณ์วันนี้คือฉุกเฉินที่สุดแล้วนะ

ครม.ไปไหน ? บริหารประเทศกันโดย WfH และ วิดีโอคอนเฟอรเรนซกันทุกวันอังคารบ่ายเหมือนที่เป็นมาทุกๆสัปดาห์อย่างนั้นหรือ มีใครบ้างไหม ที่มีส่วนรับผิดชอบในการกำหนดนโยบายที่ลงไปดูหน้างานในรพ.ที่อยู่แค่ปลายจมูกในกทม. ว่าแพทย์และพยาบาลในห้องฉุกเฉินของรพ.ทุกแห่งเขาขาดอะไร เขาต้องการอะไรเพิ่ม ช่วยแก้ปัญหาวันนี้พรุ่งนี้ให้เขาได้ไหม? หรือต้องให้เขียนรายงานเสนอมาตามขั้นตอนในสัปดาห์หน้า เพื่อฝ่ายนโยบายจะได้ทราบในเดือนหน้า แล้วจะได้แก้ปัญหาให้ในปีงบประมาณต่อไป

ความจริง มันไม่ได้เป็นปัญหาของแพทย์พยาบาลหรอก เพราะพวกเขาทำกันจนเต็มที่ ทำกันจนหมดหนทางที่จะทำต่อแล้ว ทำได้แค่นั้นก็คือแค่นั้น ปาดเหงื่อ นั่งพัก แล้วก็หยุดทำ พราะทำอะไรต่ออีกไม่ได้แล้ว แต่ที่จะสูญเสียทับถมลงไปเรื่อยๆก็คือชีวิตของผู้คน ผู้คนธรรมดาสามัญที่ไม่มีอะไรสลักสำคัญ แต่เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นญาติสนิทอันเป็นที่รักและมีความหมายต่อครอบครัวของเขา เราจะเพิกเฉย ละเลยต่อการสูญเสียชีวิตของผู้คนมากมายในแต่ละวันอย่างนี้ไปอีกนานเท่าไหร่นะ

เราจะร้องขอมากไปหรือเปล่า ที่อยากจะให้นายกรัฐมนตรีตั้งวอร์รูม เรียกประชุมทุกเช้ากับรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นใน24 ชมที่ผ่านมา และสั่งการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจนในแต่ละเรื่อง แต่ละปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่สั่งลอยๆให้ทุกฝ่ายไปคิดหาวิธีแก้ปัญหามาให้ อย่างที่เคยทำ เรามีนายกรัฐมนตรีไว้เพื่อสั่งการ เพื่อตัดสินใจ และเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติของชาติมิใช่หรือ

ช่างเถอะ ที่เราทำได้ก็เพียงรำพึงรำพันด้วยความทุกข์และคับแค้นใจ แต่อย่างไร พวกเราก็คงต้องทำหน้าที่ของเรา และทำงานหนักเพื่อดูแลผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราต่อไปตามที่เคยเป็นมา และที่จะเป็นต่อไปทุกๆวันไม่มีวันหยุด

วันนี้ที่ยิม 4 เราช่วยให้ภูมิต้านทานเข็มแรก โดย Astra Zenecaแก่ผู้คนที่รอคอยได้เพิ่มอีก 2680คน ตัวเลขสะสมของผู้ได้รับ AZ จากเรา เกินกว่า 80,000 คนไปแล้วนะ และที่รพ.สนามธรรมศาสตร์
เรารับผู้ป่วยโควิดรายใหม่เข้ามาดูแลเพิ่มได้อีก 30 คน กับสามารถส่งผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วกลับบ้านได้รวม 45คน คืนนี้เหลือผู้ป่วยโควิดอยู่กับเราที่นี่ 325คน

สำหร้บที่ศูนย์ Home Isolation ตัวเลขผู้ป่วยเช้านี้มีสะสมรวมกว่า700รายแล้ว และในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ยังแอคทีฟอยู่ในโครงการถึง 450คน เย็นวันนี้เรามีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างดำเนินการรับเข้าโครงการอีกราว 70 ราย อีกสักสองสามวัน ตัวเลขผู้ป่วยโควิดที่รับเข้า HI คงมีไม่ตำ่กว่าร้อยคนแน่นอน เราไม่ได้ดีใจกับตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นหรอกนะ แต่เราภูมิใจที่ระบบของเรามีส่วนช่วยดูแลชีวิตของผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้นต่างหาก

ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เช้าวันนี้ผลตรวจเชื้อโควิดที่ทำในโรงพยาบาลเมื่อ24ชม. ที่ผ่านมาจำนวน 172 คนพบผู้ป่วยติดเชื้อ 29ราย และเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลสองคน หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาล และมีผู้ป่วยโควิดที่เราดูแลอยู่เสียชีวิตไปอีกสองคน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นปกติ เตียงโควิดเหลืองและแดงที่เต็มอยู่ขยับขยายได้น้อยมาก ยกเว้นเตียงเคสเขียวเข้มที่ยังพอมีว่างวันละราวสิบกว่าเตียง จากการรีเฟอร์ผู้ป่วยอาการไม่มากไปดูแลที่รพ สนามเพื่อจะรับผู้ป่วยใหม่ที่มีผล swab เป็นบวก และเริ่มมีอาการไม่ดีเข้ามาดูแลรักษาแทน

จากวันนี้ไป จนถึงวันใดวันหนึ่งในอีกไม่นานนัก เมื่อผู้ป่วยถึง 18,000 แตะ 20,000 หรือมากกว่านั้น ภาระและความกดดันมหาศาลจะตกอยู่กับแพทย์พยาบาลด่านหน้าในทุกๆโรงพยาบาล ที่จะต้องรับภาระในการช่วยชีวิตผู้ป่วยที่หลั่งไหลเข้ามาจนเต็มล้น และต้องรับความกดดันจากความคาดหวังจากผู้ป่วยและญาติ ในเงื่อนไขการทำงานที่ยากลำบากที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือน้อยมากจากระบบสาธารณสุขที่แทบไม่เหลือพลังจะไปประคับประคองหน่วยใดได้อีก.. มีแต่ใจและความรักในเพื่อนมนุษย์เท่านั้นที่ทำให้ระบบโรงพยาบาลของเรายังยืนอยู่ต่อไปได้

ถ้ามาให้กำลังใจพวกเราไม่ได้ ก็ช่วยสวดมนต์ให้พวกเราเข้มแข็งต่อไปด้วยนะ
รักเธอ ประเทศไทย