ไวรัสโควิด19 คร่าชีวิตคนไทยแล้ว 1 ราย

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊คระบุว่า มีผู้ป่วยชายไทยอายุ 35 ปี ซึ่งทำงานขายสินค้าและติดไวรัสโควิด -19 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 18.25 น. โดยผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัวใดๆทั้งสิ้น และได้รับการรักษาตามมาตรฐานที่โรงพยาบาลบำราศนราดูล ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิกฤติหลายท่าน และได้รับเครื่องช่วยให้ออกซิเจนในเลือด ECMO สำหรับพยาบาลที่เข้าไปดูแลผู้เสียชีวิตรายนี้ในวันแรก ผลปรากฎว่า ติดเชื่อไวรัสโควิด-19 ด้วย และมีปอดบวมรุนแรงทั้งสองข้าง แต่เนื่องจากได้รับยารักษาอาการทัน
.
แต่เนื่องจากประเทศไทยได้รับยา favipiravir ในระยะหลัง โดยผู้ป่วยมีอาการรุนแรงใส่เครื่องช่วยหายใจและถึงแม้ว่าจะทำให้เชื้อไวรัสหายไปหมดก็ตามแต่มีเนื้อปอดเสียหายมาก และในที่สุดผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างสงบ
.
นี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญว่าโรคนี้สามารถแพร่ได้ในคนที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยเท่านั้น และแม้แต่ไม่มีโรคประจำตัวก็มีอาการวิกฤตได้
.
นอกจากนี้ การวินิจฉัยข้างต้นจากห้องปฏิบัติการ พบว่าผู้ป่วยชายรายนี้เป็นไข้เลือดออกด้วย
.
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ไทมไลน์จากเคสผู้เสียชีวิตรายนี้ เริ่มจากวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอกชนวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออก จากนั้นพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และถูกส่งตัวมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูรตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์
.
จากนั้นทางสถาบันจึงทำการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่ดีที่สุด และตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่16 กุมภาพันธ์ 2563 แต่เนื่องจากสภาพปอดที่เสื่อมแต่เดิม หัวใจและอวัยวะภายในทำงานหนัก ทำให้อวัยวะภายในหลายระบบล้มเหลว (Multiorgan failure) จึงเสียชีวิตในที่สุด
.
ทั้งนี้จากการที่มีผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกของไทย ทำให้ไทยเป็นประเทศที่ 10 ที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด 19