ไอเอ็มเอฟลดเป้าเศรษฐกิจโลก 2 ปีซ้อน กดจีดีพีปีเสือลงเกือบ 1% เหลือต่ำ 4%

325
0
Share:

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีโลกประจำปี 2565 ลงจากเดิมที่ 4.4% มาเหลือเพียง 3.6% ซึ่งเป็นการปรับลดลงถึง 0.8% จากเป้าหมายเดิม สาเหตุจากสถานการณ์สงครามรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อและมีแนวโน้มทวีความรุนแรง และผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่มีต่อรัสเซีย นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังได้ปรับลดจีดีพีโลกปี 2566 ลงจากเดิมที่ 3.8% เหลือเพียง 3.6% หรือลดลง 0.2%

สำหรับสหรัฐอเมริกา ไอเอ็มเอฟลดเป้าจีดีพีปีนี้ลงเพียง 0.3% ส่งผลจีดีพีลงมาเหลือที่ 3.4% จากระดับ 3.7% ที่ประเมินไว้เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบในวงจำกัดจากสงครามรัสเซียกับยูเครน แต่มีปัจจัยลบจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเพื่อลดความร้อนแรงของเงินที่พุ่งสูงในรอบ 4 ทศวรรษ

ไอเอ็มเอฟปรับลดเป้าจีดีพีปี 2565 ของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลงมากถึง 0.9% ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นเหลือเพียง 2.4% จากเป้าหมายเดิมที่ 3.3% สาเหตุจากญี่ปุ่นเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับต้นๆของโลกที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงจากผลพวงของสงครามรัสเซีย ส่งผลกระทบต่อการบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชน

ในส่วนของเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่นั้น ไอเอ็มเอฟลดเป้าจีดีพีปี 2565 ลง 0.4% จากเดิมที่ประเมินว่าจะขยายตัวระดับ 4.8% เมื่อเดือนมกราคมมาเหลือที่ระดับ 4.4% สาเหตุจากนโยบายไม่อยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์บ่อยครั้ง ส่งผลกระทบภาคอุตสาหกรรม การผลิต และธุรกิจเกิดการสะดุดหยุดลงบ่อยครั้ง ไอเอ็มเอฟมองว่า การล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ จะนำไปสู่ปัญหาคอขวดห่วงโซ่การผลิตโลก

ด้านเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรในยุโรป พบว่า ไอเอ็มเอฟลดเป้าจีดีพีปี 2565 มากถึง 1.1% ส่งผลให้ในปีนี้เศรษฐกิจกลุ่มยูโรจะขยายตัวจากที่คาดไว้ระดับ 3.9% มาเหลือเพียง 2.8% โดยเศรษฐกิจเยอรมนีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มยูโร และอิตาลีได้รับการปรับลดจีดีพีมากที่สุด สาเหตุจากมีระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย และภาคการผลิตมีขนาดใหญ่

ไอเอ็มเอฟยังได้ปรับลดปริมาณการค้าโลกถึง 2 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2565 ลดเป้าหมายจากเดิมที่ 6% เหลือ 5% และในปี 2566 ลดลงจากเดิมที่ 4.9% เหลือที่ระดับ 4.4% ด้านเงินเฟ้อทั่วโลก ไอเอ็มเอฟมองว่าตัวเลขดังกล่าวในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะเพิ่มสูงขึ้นจากเป้าหมายเดิม โดยในปี 2565 จะมีเงินเฟ้อเพิ่มเป็น 5.7% จากเดิมที่ 3.9% ขณะที่กลุ่มประเทศเกิดใหม่ และกำลังพัฒนา จะมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึงระดับ 8.7% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ที่ระดับ 5.9%

เมื่อวานนี้ นายเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีโลกประจำปี 2565 ลงจากเดิมที่ 4.1% เมื่อเดือนมกราคมมาเหลือเพียง 3.2% ซึ่งเป็นการปรับลดลงถึง 0.9% จากเป้าหมายเดิม สาเหตุจากสถานการณ์สงครามรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อและมีแนวโน้มทวีความรุนแรง