ไอโฟนขึ้นเบอร์ 1 ในจีน ทำรายได้รวมปี 64 พุ่งกว่า 4 ล้านล้านบาท

387
0
Share:

นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ แอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น เจ้าของไอโฟน ไอแพด ไอพอด และแอปเปิล แมค เปิดเผยผลประกอบการในในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ปรากฎว่า ทำรายได้พุ่งทะยานถึง 123,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.2 ล้านล้านบาท พุ่งขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับปี 2563 ในแง่รายได้ต่อหุ้น พบว่าเพิ่มขึ้นเป็น 2.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ นั่นหมายถึง แอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น สามารถสร้างสถิติมากเป็นประวัติการณ์ด้านรายได้ทั้งตลาดที่พัฒนาแล้ว และตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ ยังสร้างรายได้จากอุปกรณ์เกือบทุกอย่างของแอปเปิล ยกเว้นไอแพด ซึ่งเกิดจากข้อจำกัดของปัญหาห่วงโซ่การผลิตของซัพพลายเออร์ตลอดทั้งปี 2564 ท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19

คานาลิส (Canalys) บริษัทให้บริการที่ปรึกษาและงานวิจัยด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนยี่ห้อไอโฟนสามารถสร้างส่วนแบ่งตลาดพุ่งขึ้นเป็น 22% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ส่งผลให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลก ที่สำคัญ ไอโฟนยังมียอดขายรวมทั่วโลกแซงสมาร์ทโฟนยี่ห้อซัมซุง ซึ่งเป็นคู่ปรับสำคัญ โดยมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกลดลงเหลือ 20% ไอโฟนจึงกลับสู่ตำแหน่งแชมป์สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนผ่านมา

สาเหตุที่ไอโฟนกลับมาทวงบัลลังก์สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุด และมีส่วนแบ่งมากอันดับ 1 ของโลกเป็นผลจากไอโฟนรุ่น 13 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ไอโฟนสามารถทำยอดขายสมาร์ทโฟนขึ้นอันดับ 1 ในตลาดประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2564 อีกด้วย โดยบริษัทเคาท์เตอร์ พอยท์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีอีกราย พบว่า ไอโฟนสามารถทำส่วนแบ่งตลาดพุ่งขึ้นเป็น 23% จากที่เคยมีเพียง 16% ของไตรมาส 3 ในปี 2564 ส่งผลให้ไอโฟนสามารถขึ้นอันดับหนึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีของตลาดประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว ท่ามกลางสมาร์ทโฟนยี่ห้อวีโว่ (Vivo) ซึ่งเป็นยี่ห้อในประเทศจีนร่วงหล่นจากแชมป์อันดับ 1 จากไตรมาสที่แล้วลงไปเป็นอันดับ 2 อย่างไรก็ตาม แม้ตลอดทั้งปี 2564 นั้น ไอโฟนมียอดขายในจีนเป็นอันดับ 3 ตามหลัง Vivo และ Oppo