2 แบรนด์เนมหรูหรา ลบและซ่อนภาพลิซ่า แบล็คพิ้งค์ทุกรูปออกจากบัญชี 2 แบรนด์เนมบนเว่ยป่อ

122
0
Share:
2 แบรนด์เนม หรูหรา ลบและซ่อนภาพ ลิซ่า แบล็คพิ้งค์ทุกรูปออกจากบัญชี 2 แบรนด์เนมบน เว่ยป่อ

เดลิเนเวอร์ สื่อวงการบันเทิงชื่อดังในเกาหลีใต้ รายงานว่า บุลการี (BVLGARI) และซีลิน (CELINE) เป็นสินค้าแบรนด์เนมระดับหรูหราของโลก โดยมีลิซ่า วงแบล็คพิ้งค์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้ง 2 แบรนด์ดังกล่าว ได้ทำการลบ และซ่อนรูปภาพของลิซ่า รวมถึงลบและซ่อนข้อความที่ทั้ง 2 แบรนด์เนมโพสต์เกี่ยวกับลิซ่าบนบัญชีใช้งานของทั้งแบรนด์บุลการี (BVLGARI) และซีลิน (CELINE) บนสื่อโซเชียลเว่ยป่อในจีนแผ่นดินใหญ่

แม้ว่าทั้ง 2 แบรนด์เนมดังกล่าวจะไม่ชี้แจงเหตุผลในการลบหรือซ่อนภาพรวมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับลิซ่า แต่เป็นที่เข้าใจกันอย่างชัดเจนว่า กระแสจากชาวจีนที่เป็นผู้ใช้สื่อโซเชียลเว่ยป่อล้วนไม่พอใจอย่างมากต่อลิซ่า นักร้องซุปเปอร์สตาร์เพลงเค-ป๊อป และเป็นหนึ่งในสมาชิกวงแบล็คพิ้งค์ที่โด่งดังทั่วโลก

ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ 2 พฤศจิกายน 2023 เว่ยป่อ (Weibo) หนึ่งในแพลทฟอร์มสื่อโซเชียลยักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศปิดบัญชี หรือแบนบัญชีใช้เว่ยป่อของลิซ่า วงแบล็คพิ้งค์ โดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผลในการปิดบัญชีของลิซ่าในครั้งนี้ ส่งผลให้ลิซ่าไม่สามารถโพสต์ข้อความและเนื้อหาในเว่ยป่อได้อีกต่อไป

เว่ยป่อ แสดงข้อความของบัญชีใช้งานของ ลิซ่า ปรากฏข้อความว่า This account can no longer be viewed due to reports of violations of laws, regulations, and Weibo community agreements หมายถึง บัญชีนี้ไม่สามารถเปิดดูได้อีกต่อไป เนื่องพบรายงานการละเมิดกฎหมาย ข้อบังคับ และข้อตกลงของเว่ยป่อ

ในขณะที่ สื่อโซเชียลได้มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดที่เว่ยป่อปิดบัญชีของลิซ่าว่า เป็นเพราะลิซ่าขึ้นแสดงโชว์บนเวทีเครซี่ เฮ้าส์ Crazy Horse ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการแสดงโชว์คาบาเรต์อย่างวาบหวิว ชาวจีนมีความคิดเห็นและมุมมองว่าเป็นการแสดงที่ไม่เหมาะสม สาเหตุจากการแสดงโชว์ประเภทนี้เน้นการโชว์เรือนร่างแบบเปิดเผยชัดเจน สำหรับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่นั้น มีความเคร่งครัดอย่างมากกับการแสดงที่โชว์ลักษณะวาบหวิวนี้ ไม่ให้มีการส่งเสริมการแสดงทางลามก อนาจาร ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมศิลปะการแสดงแห่งประเทศจีน

ทั้งนี้ ในปี 2021 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง ได้ใช้นโยบายการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และบังคับใช้มาตรการกวาดล้างธุรกิจเทคโนโลยีออนไลน์ทุกรูปแบบรวมถึงอุตสาหกรรมบันเทิงทุกประเภทในประเทศที่ขัดต่อศีลธรรมและก่อให้เกิดผลกระทบต่อบรรดาคนจีนรุ่นใหม่ในทางที่ไม่มีทัศนคติการรักชาติ และบั่นทอนศักยภาพการทำงานต่อระบบเศรษฐกิจจีน