’20 สมาคมท่องเที่ยว’ เข้ายื่นหนังสือถึง “นายกฯ” เสนอผ่อนมาตรการเดินทางเข้าไทย

460
0
Share:
สมาคมท่องเที่ยว

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 65 สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว 20 สมาคม ได้ทำหนังสือยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศ ซึ่งจากที่ ศบค. ได้มีมติผ่อนคลายการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.65 ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวขอชื่นชมในการตัดสินใจที่จะเดินหน้าเปิดประเทศในครั้งนี้ทำให้ประเทศไทยยังเป็นผู้นำอันดับต้นๆทางด้านการท่องเที่ยวของเอเชีย

จากสถิติการเดินทางเข้าประเทศพบว่าในตั้งแต่วันที่ 1-13 ก.พ.ที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้าประเทศแล้วกว่า 78,793 ราย พบว่าในวันที่ 5 ที่มีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 นักท่องเที่ยวได้เข้าพักในโรงแรมกระจายไปเกือบทุกจังหวัดของประเทศไทย เป็นสัญญาณที่ดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และพลิกฟื้นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

นอกจากนี้ยังพบว่า อัตราการติดเชื้อของผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ และสามารถบริหารจัดการได้ ตัวอย่างเช่นตั้งแต่วันที่ 1-13 กุมภาพันธ์ จังหวัดภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อจากนอกประเทศคิดเป็นร้อยละ 2.84 โดยแยกเป็น ผลบวกจากการตรวจครั้งที่ 1 ร้อยละ 2.17 // ผลบวกจากการตรวจครั้งที่ 2 ร้อยละ 3.56

นักท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นผู้ป่วยสีเขียว ซึ่งร้อยละ 56 ของผู้ติดเชื้อได้เข้ากักตัวในรูปแบบ Hotel Room Isolation อีกร้อยละ 11 เป็นผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อนโดยมีเอกสารยืนยันมาแสดง ร้อยละ 6 เข้ากักตัวในHospitel หรือโรงพยาบาล และที่เหลือเป็นผู้ที่เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วหรือรอดำเนินการ

ทั้งนี้ผู้เดินทางทั้งหมดเป็นผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย และไม่ต้องการการดูแลจากแพทย์ ภาคเอกชนพบว่าสถานการณ์การระบาดในปัจจุบันถึงแม้จะมีอัตราผู้ติดเชื้อที่สูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ได้สร้างภาระหรือกดดันระบบสาธารณสุขแต่เพียงอย่างใด และพบอัตราการตายที่ต่ำมากซึ่งใกล้เคียงกับการป่วยเป็นโรคหวัด

ยิ่งไปกว่านั้นหลายประเทศในโลก โดยเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลักในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวได้ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น เช่น ประเทศสวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ ได้ยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 เกือบทั้งหมด เช่น ยกเลิกการตรวจ RT-PCR ยกเลิกการกักตัว เป็นต้น และประเทศในเอเชียแปซิฟิกได้ทยอยปรับมาตรการการเดินทางเข้า อาทิ

ประเทศฟิลิปปินส์ได้ยกเลิกการตรวจโควิดเมื่อเดินทางมาถึงตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์คงเหลือเพียงแต่การแสดงเอกสารการฉีดวัคนและการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง 48ชั่วโมง // ประเทศกัมพูชาได้ปรับการตรวจที่สนามบินเป็นการตรวจด้วย ATK สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วและต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคชีนครบโดสและการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง

และประเทศออสเตรเลีย ได้ยกเลิกมาตรการการกักตัว โดยตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ทุกคนที่ได้รับวัคชื่นครบสามารถดินทางสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยแสดงเอกสารการตรวจRT-PCR เป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง นอกจากนี้ประเทศต่างๆที่เป็นคู่แข่งด้านการท่องเที่ยว เช่น ประเทศเวียดนามและญี่ปุ่นก็เตรียมประกาศยกเลิกมาตรการการเดินทางในเดือนเมษายนนี้

การผ่อนคลายมาตรการเหล่านี้ของประเทศต่างๆทำให้ประเทศไทยเริ่มสูญเสียความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวบนเวทีโลก กล่าวคือ นักท่องเที่ยวจะเลือกเดินทางไปยังประเทศที่ไม่มีมาตรการใดๆมากกว่าการเดินทางมาประเทศไทยดังนั้นเมื่อวิเคราะห์จากปัจจัยเบื้องต้นภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวจึงเรียนมาเพื่อขอให้ศบค.พิจารณามาตรการการเดินทางเข้าประเทศในระยะเวลาที่เหลือของเดือนกุมภาพันธ์ขอให้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการดังต่อไปนี้

งดการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 เนื่องจากอัตราการติดเชื้อของนักท่องเที่ยวในวันที่ 5 น้อยกว่าการติดเชื้อในท้องถิ่น ณ ปัจจุบัน และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่นักท่องเที่ยว ปรับลดการกักตัวของผู้ติดเชื้อเหลือ จากเดิม 10 วัน ให้เหลือเพียง 5 วัน // ยกเลิกมาตรการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่หากตรวจหาเชื้อแล้วเป็นลบในวันแรก // ปรับลดวงเงินประกันการเดินทาง จาก USD50,000 ให้เหลือ USD25,000

ในเดือนมีนาคมขอให้พิจารณาประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ตามแนวทางที่ประเทศต่างๆในโลกได้เริ่มดำเนินการ และยกเลิกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าประเทศ อาทิ การขอ Thailand Pass และการตรวจ RT-PCR ครั้งที่หนึ่ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาประเทศไทยได้อย่างสะดวก และเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวให้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดมากที่สุด

นอกจากนี้เดือนเมษายนที่จะมาถึงเป็นเดือนสำคัญของการท่องเที่ยวของโลก เนื่องจากจะมีเทศกาลอีสเตอร์ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติจะนิยมเดินทางพักผ่อนในช่วงวันหยุดเทศกาลนี้ ประกอบกับเป็นเดือนมงคลของไทยที่จะมีเทศกาลสงกรานต์ และเป็นโค้งสุดท้ายของฤดูกาลท่องเที่ยว